แนะนำ 7 ช่องทาง การทำการตลาดออนไลน์ ที่เจ้าของธุรกิจควรรู้
2028 views | 17/03/2022
Copy link to clipboard
Content Creator

เมื่อเจ้าของธุรกิจได้ยื่นมือเข้ามาในโลกของการตลาดออนไลน์แล้ว สิ่งที่ควรรู้เป็นอันดับต้น ๆ เลยก็คือ "ช่องทางการทำการตลาดออนไลน์" อันดับต่อมาต้องรู้ด้วยว่า แต่ละช่องทางเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้เลือกให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรา และสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด



เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจทุกคนคงเคยเห็นโพสต์แนะนำสินค้าและบริการของแบรนด์ต่าง ๆ ตามเฟซบุ๊ก เคยได้รับจดหมายโปรโมชันของแบรนด์ที่ส่งมาทางอีเมล หรือเคยเสิร์ชหาผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งบน google แล้วมีผลลัพธ์เป็นสินค้าแบรนด์นั้นแบรนด์นี้แสดงขึ้นมาเต็มหน้าเว็บไซต์ สิ่งที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นการทำการตลาดออนไลน์ทั้งสิ้น การทำการตลาดออนไลน์แต่ละแบบ ล้วนมีรูปแบบและวิธีการที่แตกต่างกัน



1. Website Marketing

เว็บไซต์คือช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ผู้บริโภคเจอเรา ได้ทำความรู้จักว่าเราคือใคร ขายอะไรบ้าง รวมถึงเป็นหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้ามาสั่งซื้อสินค้าได้ เป็นแพลตฟอร์มที่แบรนด์สามารถควบคุมจัดการได้ตามต้องการ เช่น มีบทความให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ แนะนำผลิตภัณฑ์หรือโปรโมชันของแบรนด์ เป็นต้น และที่สำคัญคือมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งาน ซึ่งนำไปวิเคราะห์ต่อยอดใช้ในการวางกลยุทธ์ได้ด้วย 

 


2. Search Engine Marketing (SEM)

คือการทำการตลาดออนไลน์บน Search Engine โดยซื้อโฆษณาเพื่อให้เว็บไซต์ของเราไปแสดงบนหน้าแรกของ Search Engine Result Pages (SERPs) เมื่อมีการค้นหาด้วย Keywords ที่กำหนดไว้ และจะเรียกเก็บเงินตามจำนวนที่คลิกเว็บไซต์ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคเจอเราง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือซื้อสินค้านั่นเอง 



3. Search Engine Optimization (SEO)

SEO คือการทำตลาดออนไลน์วิธีหนึ่งบน Search Engine เหมือน SEM แต่จะต่างกันตรงที่ SEO ไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณา แต่เป็นการปรับปรุงคุณภาพของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับหลักการทำงานของระบบ Search Engine โดยอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้ถูกใจระบบ Search Engine การใช้ Keywords การใส่ Backlink เป็นต้น



4. Email Marketing

คือการทำการตลาดออนไลน์ผ่านอีเมล โดยเป็นการแจ้งข้อมูลข่าวสาร โปรโมชัน ของทางแบรนด์ ไปยังผู้รับที่เป็นลูกค้าหรือผู้ที่ให้ข้อมูลการติดต่อไว้บนเว็บไซต์ ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าเดิม เช่น ส่งอีเมลส่วนลดโปรโมชัน Exclusive สำหรับลูกค้าที่เคยซื้อสินค้า ซึ่งถือเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้าและแบรนด์ด้วย หรือแม้กระทั่งเพิ่มจำนวน Lead หรือกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นลูกค้า เช่น คนที่สนใจในสินค้าหรือบริการ เคยลงทะเบียนสมัครรับข้อมูลไว้เพื่อรับสินค้าทดลอง ก็อาจจะส่งอีเมลเพื่อนำเสนอโปรโมชันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นให้อีกครั้ง เป็นต้น 



5. Social Media Marketing

คืออีกช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ที่เป็นที่นิยม โดยทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, Instagram Twitter, Youtube, Line, TikTok เพื่อสร้างการรับรู้ให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า เพิ่มโอกาสทางการขาย และยังช่วยให้แบรนด์ได้รู้จักและทำความเข้าใจ insight ของลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายของตัวเองผ่านพฤติกรรมการใช้งานบนโซเชียลมีเดีย อย่างการ Like, Comment, Share หรือ Check-in



6. Content Marketing

คือการทำการตลาดที่เน้นไปที่การผลิตเนื้อหาเป็นหลัก โดยนำเสนอเนื้อหาให้มีคุณค่า เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย จนส่งผลให้เกิดการรับรู้ในตัวแบรนด์ สร้างความน่าเชื่อถือ หรืออาจจะช่วยกระตุ้นตัดสินใจซื้อได้ ซึ่งการทำคอนเทนต์นั้นมีให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น บทความ รูปภาพ วิดีโอ อินโฟกราฟิก ฯลฯ ขึ้นอยู่กับว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร 



7. Influencer Marketing

คือการทำการตลาดโดยจ้างคนดังที่มีผู้ติดตามจำนวนมากบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน ดารา ไอดอล บล็อกเกอร์ หรือยูทูปเบอร์ มาช่วยโปรโมทสินค้าหรือบริการให้กับเรา เพราะสมัยนี้ผู้คนเลือกที่จะเชื่อรีวิวหรือความคิดเห็นบนโลกออนไลน์มากกว่าสิ่งที่แบรนด์นำเสนอ ดังนั้นการเลือกคนที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มเป้าหมายของเรามาช่วยแนะนำสินค้าหรือบริการของเรา ก็จะเป็นวิธีหนึ่งที่สร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้


จะเห็นได้ว่าช่องทางทำการตลาดออนไลน์นั้นมีให้เลือกหลายช่องทางเลยทีเดียว แต่ท้ายที่สุดแล้วจะใช้ช่องทางใดนั้น ก็ต้องมาเลือกให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจและปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อให้ตอบวัตถุประสงค์ที่วางไว้มากที่สุด

ที่มาข้อมูล

  • DigitalMarketingมีอะไรบ้าง?
  • การตลาดออนไลน์คืออะไร?ตัวอย่างช่องทางการตลาดออนไลน์2021มีอะไรบ้าง?
  • เรียนรู้ทุกช่องทางOnlineMarketing