แต่จะทำอย่างไร ถึงจะสร้างเพจขายของให้ปัง จนทำให้มีผู้ติดตามเพิ่ม มียอดไลก์ยอดแชร์เพจเยอะขึ้น และขายของได้ด้วย เรามีเทคนิคดี ๆ มาแนะนำกัน
สำหรับใครที่มีสินค้าพร้อมขายแต่ยังไม่เคยมีเพจ ไปเรียนรู้การสร้างเพจกันก่อนได้ ที่นี่
แต่ถ้าหากมีสินค้าพร้อมขาย และมีเพจพร้อมแล้ว ก็มาเตรียมดันยอดให้ทะลุเป้ากับเทคนิคเหล่านี้ได้เลย
ภาพ Profile และ Cover page เป็นการแสดงออกถึงภาพลักษณ์ บุคลิกภาพเบื้องต้นว่าเพจนี้มีลักษณะเป็นอย่างไร จริงจังหรือสดใส ทางการหรือขี้เล่น ถือเป็นประตูบานแรกที่สำคัญต่อความรู้สึกของผู้เข้าชม
ควรออกแบบภาพออกมาให้สื่อถึงและเกี่ยวข้องกับสินค้าของเราให้ได้มากที่สุด เพราะภาพสวย ๆ ในส่วนนี้เอง ที่จะเป็นด่านเเรกในการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ และยังช่วยให้เพจของเรามีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งดีต่อการค้าขายเพื่อให้ลูกค้าได้จดจำ
ก่อนอื่นต้องมีความชัดเจนในเพจก่อนว่า กลุ่มเป้าหมายเราคือใคร แล้วหลังจากนั้น จึงกำหนดแนวทางการทำเพจให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยอิงจากสินค้าของเราเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคอนเทนต์ ภาพประกอบ และแคปชั่นต่าง ๆ ก็ควรทำออกมาให้สามารถสื่อสารได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายของเรา
เช่น ถ้าเราขายยาสีฟันสำหรับผู้สูงวัย เนื้อหาต่าง ๆ ภายในเพจก็ต้องเป็นไปในเเนวที่ผู้สูงวัยชอบ เวลาทำภาพก็ต้องเน้นให้ตัวอักษรชัด เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเรารู้สึกว่าสินค้าในเพจ ทำมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ
การกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนตั้งเเต่เเรก นอกจากจะดีในเรื่องการรับรู้แบรนด์ (Awareness) แล้ว ยังมีผลต่อการ Boost Post ที่จะช่วยให้เรา เลือกกลุ่มเป้าหมาย (Audience) ได้ตรงเป้าอีกด้วย
คำที่ใช้ในการโฆษณา ถือเป็นหัวใจในการขายของออนไลน์ เพราะการเลือกใช้คำส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการ โดยมีหลักที่ต้องคำนึงถึงดังนี้
คนส่วนใหญ่นิยมเล่น Facebook ผ่านมือถือการสไลด์ข้อมูลต่าง ๆ บนฟีดข่าวจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นรูปที่โดนใจก่อนเป็นอันดับแรกจะเป็นสิ่งที่เรียกความสนใจได้ดีที่สุด ถ้าไม่ถนัดทำกราฟิคก็ให้เน้นไปในทางรูปถ่าย หากเป็นรูปสินค้าก็ควรถ่ายให้คมชัด จัดวางองค์ประกอบให้น่าสนใจ หรือจะหาซื้อรูปภาพจากอินเตอร์เน็ตก็มีหลายเว็บให้บริการ
Engagement ในทางการตลาดออนไลน์ หมายถึง การที่ลูกเพจหรือคนบนโลกออนไลน์ “มีส่วนร่วม” กับเพจทั้ง Like Comment Share ซึ่งนอกจากจะสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจแล้ว การที่เพจคอยตอบข้อความ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นใน Comment เสมอ จะช่วยสร้างความรู้สึกที่เป็นมิตรกับลูกเพจ ทำให้เกิด Brand Royalty และจะได้ผู้ติดตามคุณภาพที่จะช่วยให้ในแต่ละโพสต์ของเพจมี Engagement ที่ดี
Facebook มีผู้ใช้งานอยู่หลากหลาย การเลือกโพสต์เวลาที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเพจได้เป็นอย่างดี
คนทำเพจต้องหูไวตาไว จับกระเเสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโซเชียลมาเล่นในเพจให้เกิดประโยชน์ได้อย่างทันท่วงที ตัวอย่างเพจที่เล่นกับกระแสได้ดีจนเกิดเป็น Viral ได้เสมอ ก็คือ เพจ Tops Thailand - ท็อปส์ ไทยแลนด์
ที่มักเอาเหตุการณ์หรือประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม มาเเมทช์กับสินค้าที่มีขายได้อย่างน่าสนใจ แม้คนที่เห็นอาจจะไม่ได้คิดจะซื้อสินค้าในทันที แต่เห็นแล้วอยากแชร์ต่อ ทำให้เกิดการพูดถึงในวงกว้าง ถือว่าได้ผลอย่างดีในเรื่องการสร้าง Brand Awareness
ถ้าอยากให้ลูกค้ากดไลก์หรือกดติดตามเพจของเรา ต้องหมั่นเสิร์ฟคอนเทนต์ดี ๆ ที่ให้ความรู้ แก่ผู้อ่านบ้าง ถ้าจะให้ดีควรเป็นคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับสินค้าหรือแบรนด์ของเราเป็นหลัก เช่น ถ้าเราขายน้ำหอม อาจนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบที่คนนิยมมาทำน้ำหอม หรือเทคนิคการฉีดน้ำหอมให้ติดทนนาน คอนเทนต์ที่มีประโยชน์จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับแบรนด์มากขึ้น
การไลฟ์สดได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากได้เห็นสินค้าจริง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างเพจกับลูกค้าเพราะสามารถโต้ตอบกันได้ทันทีทั้ง 2 ฝ่าย
Content ที่เป็น VDO จะเป็นโพสต์ที่ Reach สูงกว่าโพสต์แบบอื่น ๆ เพราะคนจะให้ความสนใจมากกว่ารูปภาพ หรือบทความยาว ซึ่งในตอนนี้เทรนด์ ‘คลิป VDO โอสั้น’ กำลังมาแรง
โดยข้อมูลจากงานสัมมนาออนไลน์ The Power of Video 2021 Thailand Let Facebook Video Tell Your Story ระบุว่า VDO สั้นที่มีความยาวไม่เกิน 3 นาที ได้รับความนิยมเป็นอันดับแรก และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น
การสร้างเพจขายของให้คนสนใจอาจใช้เวลาพอสมควร เเต่หากใครอยากได้ทางลัดและเทคนิคเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ ที่ครอบคลุมตั้งเเต่การสร้างเพจให้มีคุณภาพ ไปจนถึงเทคนิคขั้นสูงอย่างการวิเคราะห์ Ads Facebook เรามีคอร์สเเนะนำ ที่จะเปลี่ยนให้มือใหม่หัดทำเพจ กลายเป็นนักยิงแอดสุดปังในเวลาอันสั้น ด้วยคอร์ส ยิงแอดปัง ฉบับจับมือทำ (Basic)
ที่มาข้อมูล