จากจำนวนชั่วโมงกว่า 400 ล้านชั่วโมงที่คนใช้ไปกับการดูคลิปรีวิว ทำให้คลิปวิดีโอประเภทรีวิวกลายเป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ที่กำลังเติบโตรองรับผู้ชมจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลและเจเนอเรชั่น Z ที่หันมาใช้แพลตฟอร์ม YouTube หรืออื่น ๆ เพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่พวกเขาสนใจ ซึ่งหมวดหมู่รีวิวสินค้ายอดนิยมคือการแกะกล่องสินค้า โดยเฉพาะสินค้าประเภทไอที มือถือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ
วิดีโอที่มีคำว่า ‘does it work’ ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 11 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ในขณะที่เวลาในการรับชมคลิปวิดีโอที่มีคำว่า ‘does it work’ ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 11 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าคลิปรีวิวเหล่านี้อาจได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์โดยตรงก็ตาม แต่โดยธรรมชาติแล้วผู้ชมมักจะสนใจคลิปรีวิวจากช่องของครีเอเตอร์มากกว่าจากช่องของแบรนด์เอง แม้คลิปรีวิวนั้นจะไม่ได้เริ่ดหรูเลยก็ตาม ยกตัวอย่างวิดีโอรีวิวสินค้าที่ทำเงินและน่ารักมาก ๆ อย่างน้อง Ryan Kaji เจ้าของช่องยูทูบ Ryan Toys Review ที่กลายเป็น YouTuber ที่ทำรายได้สูงสุด (ช่วงระหว่างเดือน มิ.ย. 2017 – มิ.ย. 2018) ถึง 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประมาณ 726 ล้านบาท โดยทำรีวิวของเล่นเท่านั้น
ส่วนใครที่เคยเขียนบล็อกรีวิวสินค้า และอยากหันมาทำคลิปวิดีโอรีวิวบ้าง บอกเลยว่าไม่ยากค่ะ เทรนด์การทำคลิปรีวิวปัจจุบันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวใด ๆ บางคนอาจทำคลิปรีวิวสินค้าเลยตรง ๆ ว่า ใช้ดีไหม ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ครบครันหรือเปล่า คุ้มค่าไหมถ้าจะซื้อ แต่บางคนก็ทำคลิปรีวิวที่มีสตอรี่หรือว่ามีเรื่องราวประกอบเพื่อความบันเทิง ก็แล้วแต่สไตล์และความถนัดของแต่ละคน แต่หัวใจหลักของการทำคลิปรีวิวให้ดีและมีคุณภาพที่สามารถดึงดูดคนดูให้เข้ามาดูคลิปรีวิวของเราทุกคลิปจำเป็นต้องอาศัยทักษะการคิดคอนเทนต์และทักษะการตัดต่อวิดีโอที่เหมาะสมกับเนื้อหาประเภทคลิปรีวิวด้วย ไปดูกันค่ะว่าเทคนิคการตัดต่อคลิปวิดีโอรีวิวสินค้าให้มีคุณภาพมีอะไรบ้าง
จากข้อมูลหลาย ๆ แหล่งมักจะแนะนำให้ทำคลิปรีวิวไม่เกิน 3 นาทีค่ะ แต่หลาย ๆ ครั้งเราก็จะเห็นคลิปรีวิวที่มีความยาวถึง 10 - 20 นาทีบน YouTube ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าเรารีวิวอะไร ควรใช้เวลากับของแต่ละชิ้นเท่าไหร่ ถ้าเป็นของชิ้นเล็ก ๆ ฟังก์ชั่นไม่มากก็ไม่ควรเกิน 3 นาที เพราะเป็นเหตุผลทางจิตวิทยาที่คนเราไม่สามารถสนใจอะไรได้นานเกิน 3 นาทีนั่นเอง
จำไว้ว่าเรามีเวลาไม่มากในการทำคลิปรีวิว ดังนั้นเราควรเลือกที่จะพูดเกี่ยวกับจุดเด่นที่ดีที่สุดที่ทำให้สินค้าชิ้นนี้แตกต่าง หลีกเลี่ยงการบอกข้อเท็จจริงแห้ง ๆ อย่างตัวเลข ยอดขาย ให้ความสนใจวิธีการใช้งาน โดยไล่เรียงไปตั้งแต่แพคเกจจิ้ง ตัวสินค้า และความประทับใจแรก ไปจนถึงวิธีการใช้งาน เช่น สินค้า 2 ชิ้นที่ดีไซน์เหมือน ๆ กัน แต่มีความแตกต่างกันตรงไหนบ้าง เพราะอะไร ใส่เหตุผลเข้าไปแล้วผู้ชมก็จะรักคลิปรีวิวของเรา
การทำคลิปรีวิวสินค้านอกจากจะต้องให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น ตัวสินค้า ฟังก์ชั่นการใช้งานแล้ว ความคิดเห็นของเราที่มีต่อสินค้าก็เป็นสิ่งที่คนดูต้องการจะฟัง ทั้งนี้ควรบาลานซ์ระหว่าง ‘ข้อดี’ และ ‘ข้อเสีย’ ของสินค้าให้เท่ากัน ไม่ลำเอียง โดยเราสามารถใส่ความคิดเห็นของเราได้ ดังนี้
การอ่านตามสคริปต์เป็นศัตรูกับการทำคลิปรีวิว เพราะเมื่อทำคลิปรีวิวนั่นหมายความว่า เรารู้เกี่ยวกับสินค้าชนิดนั้นในระดับที่ดีกว่าคนทั่วไป และการอ่านสคริปต์ก็อาจทำให้เราดูไม่เป็นธรรมชาติและที่สำคัญดูน่าสงสัยว่าใช้งานแล้วจริง ๆ หรือเปล่า ซึ่งอาจทำให้ช่องของเราดูไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นแทนที่จะพูดตามสคริปต์ทั้งหมดให้เราเขียนแค่ ‘คีย์เวิร์ด’ สำคัญของแต่ละหัวข้อออกมา แล้วพูดในแบบของเราเอง ด้วยการฝึกซ้อมให้คล่องปากก่อนถ่ายทำจริง ๆ
การตัดต่อคลิปรีวิวควรเป็นไปอย่างเรียบง่าย เน้นให้คนดูได้ ‘เห็น’ สิ่งที่เรารีวิว ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียวแต่ต้องมีภาพประกอบด้วย ระยะเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นภาพบนหน้าจอไม่ควรเกิน 3 วินาที เช่นกันกับการขึ้น Text คำบรรยายประกอบไม่ควรยาวจนล้นเฟรม ใส่ Sound Effect เรียบ ๆ เพลงประกอบหรือว่าเมโลดี้เรียบง่าย สีของวิดีโอที่ใช้ก็ไม่ควรทำให้สีจริงของสินค้าผิดเพี้ยนไป
สนใจเรียน ‘ตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือเครื่องเดียว’ สร้างสรรค์คลิปวีดีโอด้วยมือถือ สรุปขั้นตอนพร้อมเทคนิคลับ ใช้เวลาเรียนไม่นาน การันตีเรียนจบทำได้ 100%
สอนตั้งแต่การคิดคอนเทนต์ ทำวิดีโอเรื่องไหนดีที่จะมีคนดู เทคนิคการถ่ายและการตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือทั้งแนวตั้งและแนวนอน ผ่านแอปพลิเคชัน KineMaster ด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียว สนใจสมัครเรียน คลิกที่นี่
ที่มาข้อมูล