วิดีโอคอนเทนต์ ยังคงเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่มาแรงและถูกใจผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฟซบุ๊กได้เผยว่า วิดีโอคอนเทนต์และการไลฟ์สดมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 50% ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด ทางยูทูบก็ได้ออกมาเผยข้อมูลเสริมทับอีกว่า ผู้คนอัปโหลดวิดีโอใหม่ ๆ เป็นจำนวนกว่า 500 ชั่วโมงทุกนาทีบนยูทูบ ไหนจะเม็ดเงินจำนวนมหาศาลกว่า 9.26 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐที่จะหลั่งไหลเข้ามาลงทุนกับ Video Ads จากนี้ไปจนถึงปี 2024 จากการเติบโตของวิดีโอคอนเทนต์ที่มหาศาลนี้เอง ทำให้หลายคนอยากผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์วิดีโอเพื่อสร้างแบรนด์ ทำธุรกิจออนไลน์ หรือแม้กระทั่งเป็น Influencer ท่านหนึ่ง หาเงินเข้ากระเป๋าด้วยการทำวิดีโอ
แล้วตอนนี้วิดีโอคอนเทนต์แนวไหนกำลังเป็นที่นิยมอยู่ ? เว็บไซต์ชื่อดัง Hootsuite ได้ร่วมกับ We Are Social สำรวจเกี่ยวกับการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของคนทั่วโลกในรายงาน Hootsuite – Digital 2022 เพื่อดูพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเชิงลึก เทรนด์และแนวโน้มที่น่าจะเป็นในการทำสื่อโซเชียลทุกรูปแบบ ผลปรากฏว่า เหตุผลที่ผู้คนใช้โซเชียลมีเดียมากเป็นอันดับที่ 4 คือ ดูวิดีโอ ส่วนอันดับที่ 1 คือ เพื่อหาข้อมูล ชี้ให้เห็นว่าวิดีโอคอนเทนต์ยังจะไปได้ไกลทีเดียว
Cr. Hootsuite
ดังนั้นการทำ Video Content ลงโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน จึงเป็นการการันตีได้ว่าคุ้มค่าแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าหรือเจ้าของธุรกิจ ไปจนถึงคนธรรมดาที่สนใจอยากทำวิดีโอคอนเทนต์หารายได้เสริม โอกาสเป็นของทุกคน แต่การทำวิดีโอคอนเทนต์ให้ดีก็ยังเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนต้องศึกษาให้เข้าใจ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีวิธีการทำวิดีโอให้โดดเด่นแตกต่างกัน เช่น TikTok ต้องทำวิดีโอแนวตั้ง สไตล์ Lo-Fi, YouTube ต้องทำวิดีโอแนวนอน และอย่าลืมเรื่องคีย์เวิร์ดที่ต้องศึกษาให้เข้าใจเพราะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คนเสิร์ชหาวิดีโอของเราเจอก่อนใคร
ไม่ว่าเนื้อหาของเราจะเป็นเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนแค่ไหนก็ตาม ให้ตั้งธงเอาไว้ทุกครั้งเมื่อต้องทำวิดีโอเลยว่า มันจะต้องเข้าใจง่าย ไม่ต้องปีนบันไดขึ้นไปฟัง รวมถึงเสียงและภาพก็ต้องชัดเจน เหมาะสม ดีไซน์ต่าง ๆ ในวิดีโอก็ต้องไม่รก ดูสบายตา
การตั้งชื่อให้กับวิดีโอ ไม่ใช่ว่าจะตั้งชื่ออะไรก็ได้นะคะ ขนาดนักโฆษณาในตำนานอย่าง David Ogilvy ยังเคยกล่าวไว้ว่า โดยปกติแล้วคนเราจะสนใจชื่อหัวข้อมากกว่าคอนเทนต์ข้างในถึง 5 เท่า นั่นหมายความว่า เนื้อหาวิดีโอของเราจะเป็นอย่างไรก็ตาม คนจะไม่สนใจกดเข้าไปดูเลย ถ้าชื่อวิดีโอมันไม่โดนใจเขาก่อน ส่วนหลักการตั้งชื่อวิดีโอมีดังนี้
ทำไมการทำวิดีโอที่มีทั้งภาพและเสียงจะต้องมีแคปชั่นกำกับ ? ก็เพราะจากการสำรวจพบว่า 30% ของผู้ที่ดูวิดีโอเฉลี่ยอายุ 18 - 34 ปีมักจะเปิดเสียงไปด้วย แต่อีก 70% จะดูวิดีโอแบบปิดเสียง ดังนั้นต้องแน่ใจว่าวิดีโอของเราจะต้องเข้าใจได้แม้เวลาเปิด-ปิดเสียง โดยเราอาจลองเปิดวิดีโอแบบปิดเสียงดูก่อนโพสต์จริงว่าเข้าใจไหม
ก่อนทำวิดีโอลงแพลตฟอร์ตไหนก็ตาม เราต้องแน่ใจว่าเรามีจุดเด่น เปรียบเสมือนเพลง Pop ที่ต้องมีท่อนติดหู หรือไม่ก็มีดนตรีติดหู มีภาพจำ ไม่ต้องบากบั่นทำวิดีโอยาวเหยียด แต่ทำวิดีโอที่สั้น กระชับและมีภาพจำที่ติดตา ติดหูคนดูได้
แน่นอนว่าผู้ใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกัน วิดีโอที่ลงในแต่ละแพลตฟอร์มจะไม่ใช้รูปแบบเดียวกัน ความยาวของวิดีโอก็จะไม่เท่ากันอีกด้วย เพราะหากเราทำวิดีโอยาว ๆ ไปลงบนแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งาน 90% ชอบดูวิดีโอสั้น ๆ ไม่กี่วินาที วิดีโอของเราก็ย่อมไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ข้อมูลข้างต้นนี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราเริ่มทำวิดีโอคอนเทนต์ลงโซเชียลที่เราชอบ หากทำแล้วฟีดแบคยังไม่ได้เปรี้ยง ให้เราทำต่อไปเรื่อย ๆ ยูทูบเบอร์หลายคนสร้างชื่อเสียงด้วยการลงวิดีโออย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน ในวิดีโอแรก ๆ อาจจะยังไม่ปังมาก ยังไม่สามารถสร้างรายได้ได้ แต่ถ้าทำต่อไปเรื่อย ๆ พัฒนาวิดีโอให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ คนดูก็จะตามมาเองค่ะ
ที่มาข้อมูล