เทคนิควางแผนและทำสไลด์นำเสนองานจาก TED Talks
1337 views | 18/07/2022
Copy link to clipboard
Koii Nopnok
Content Creator

TED Talks ถือเป็นเวทีทอล์กที่ทำให้หลายคนรู้สึกสนุกกับการนำเสนอมากขึ้น หนึ่งในคลิปที่ผู้เขียนชอบมากบนเวที TED Talks คือคลิปของ Ken Robinson ที่พูดเรื่อง Do schools kill creativity? คลิปนี้โด่งดังมาก โดยมีคนเข้าชมมากถึง 73 ล้านคน และยังถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่า 62 ภาษา (มีภาษาไทยด้วย) 



หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเราถึงดูคลิปของ TED Talks ได้แบบไม่เบื่อ แถมยังรู้สึกสนุกไปกับการเล่าเรื่องของแต่ละคนด้วย นอกจากเวลาที่ไม่ควรพูดเกิน 20 นาที และควรทำสไลด์ให้เรียบง่ายที่สุดแล้ว ยังมีเทคนิคอะไรที่เราจะนำมาปรับใช้กับการนำเสนองานได้บ้าง บทความนี้มีคำตอบให้ค่ะ ชวนอ่านเทคนิคการนำเสนอจาก TED ว่าพวกเขามีการวางแผนสิ่งที่จะพูดและวิธีการทำสไลด์อย่างไรเพื่อให้ผู้ฟังเพลิดเพลินและประทับใจ !



เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

สิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือการเลือกหรือกำหนดหัวข้อที่จะนำเสนอ ซึ่ง TED ก็ได้แนะนำว่าให้กำหนดหัวข้อที่จะพูดโดยอิงจาก 4 คำถามนี้


  • ความคิดของฉันนั้นใหม่หรือเปล่า 
  • ความคิดของฉันน่าสนใจไหม 
  • ความคิดของฉันเป็นความจริงและเป็นจริงได้หรือไม่
  • ฉันสนใจความคิดของตัวเองไหม 


คำถามสุดท้ายนั้นสำคัญมาก ๆ เพราะถ้าคุณหลงใหลในหัวข้อที่จะนำเสนอมากเท่าไหร่ มันก็จะช่วยให้เขียนคำพูดหรือรายละเอียดต่าง ๆ ที่จะนำเสนอได้ง่ายขึ้น แถมมันยังจะทำให้คุณมีความมั่นใจตอนจะนำเสนอมากขึ้นด้วย 



กำหนดประเด็นสำคัญสำหรับผู้ฟัง

การกำหนดประเด็นสำคัญสำหรับผู้ฟังก็เปรียบเหมือนการเปิดเรื่องในนิยายที่จะชวนให้คนอยากอ่านต่อหรือปิดมันลง TED แนะนำว่าให้สรุปเป็นประโยคเดียว มันอาจจะฟังดูยาก แต่ท้ายที่สุดสิ่งนี้มันจะบังคับให้คุณจำกัดข้อความในการนำเสนอได้ดี และมันจะช่วยให้ผู้ฟังจดจำคำพูดของคุณได้ง่ายขึ้น 


คุณสามารถดูตัวอย่างการพูดได้จากคลิป Dangerous times call for dangerous women | Pat Mitchell หรือ To help solve global problems, look to developing countries | Bright Simons เป็นต้น สองคลิปนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าหัวข้อหลักหรือการกำหนดประเด็นสำคัญนั้นเป็นอย่างไร



ร่างสิ่งที่จะพูดให้เป็นเรื่องราว

โดยเริ่มจากการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่จะนำเสนอ แล้วสรุปมันออกมาให้น่าสนใจ ซึ่ง TED ก็ได้แนะนำว่าควรจะสรุปออกมาให้เป็นคำพูดของคุณ หรือเป็นเรื่องราวที่น่าฟังมากกว่าการบรรยายแบบแห้ง ๆ เพราะเรื่องราวที่น่าฟังจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกมีส่วนร่วม และพวกเขาจะจดจำได้ดีกว่าด้วย ทั้งนี้คุณสามารถใส่เรื่องราวที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวได้ด้วย 


Andrew Stanton นักเขียนบท นักพากย์ และผู้กำกับภาพยนตร์ เขาเคยขึ้นเวที TED Talks ในปี 2012 และได้เปิดเผยเคล็ดลับเกี่ยวกับการเล่าเรื่องไว้ว่า วาดสิ่งที่รู้และเข้าใจออกมา ผมไม่ได้หมายถึงโครงเรื่องหรือข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่หมายถึงการรวบรวมความจริงจากประสบการณ์ของคุณด้วย เพราะมันจะแสดงคุณค่าได้มาก และคำพูดของคุณควรมีจุดเริ่มต้น ตรงกลาง และจุดสิ้นสุดด้วย



ปรับสไลด์นำเสนอให้เหมาะกับผู้ชมและเรื่องราว

นอกจากบทพูดในการนำเสนอแล้ว คุณก็ต้องคำนึงถึงเรื่องของสไลด์หรือภาพประกอบด้วย TED แนะนำว่า ควรทำให้เรียบง่ายเข้าไว้ เป้าหมายของสไลด์คือการเพิ่มสิ่งที่คุณพูดให้เห็นภาพมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่การเบี่ยงเบนความสนใจนะ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ภาพ GIF หรือภาพที่อาจทำให้ผู้ฟังเสียสมาธิได้ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ามีบางคำพูดที่อาจจะดูไม่น่าสนใจ การใช้ภาพเข้ามาช่วยเพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกมีส่วนร่วมกับข้อมูลที่พูดคือเทคนิคที่ดี นอกจากสไลด์นำเสนอแล้ว ในวันจริงคุณก็ควรตรวจสอบเสื้อผ้า ภาษากาย จังหวะการพูดให้ดีด้วย เพราะทั้งหมดนี้ถือเป็นทีมเวิร์คที่จะต้องทำงานร่วมกันเวลานำเสนอ



4 เทคนิคออกแบบสไลด์นำเสนอแบบ TED Talks


ใช้พื้นหลังที่กำหนดเอง

PowerPoint เป็นโปรแกรมที่มีพื้นหลังให้เราเลือกใช้มากมาย แต่การใช้พื้นหลังที่ถูกกำหนดมาแล้วก็อาจจะดูจำเจหรือน่าเบื่อได้ ถ้าคุณอยากให้งานนำเสนอดูโดดเด่นและไม่เหมือนใครอาจเลือกใช้พื้นหลังที่กำหนดเอง ซึ่งสไลด์นำเสนอของ TED Talks มักใช้พื้นหลังที่กำหนดเอง โดยจะเลือกใช้พื้นหลังที่มีเอกลักษณ์แต่มีความละเอียดอ่อน คือไม่เลือกพื้นหลังที่จะเบี่ยงเบนความสนใจจากข้อความ และพื้นหลังควรมีความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของการนำเสนอด้วย



เลือกใช้ทรานซิชันอย่างเหมาะสม

หากคุณเคยดู TED Talks ทางออนไลน์ คุณอาจสังเกตเห็นว่างช่วงการเปลี่ยนภาพในสไลด์ของพวกเขาจะดูนุ่มนวลมากกว่า นั่นเป็นเพราะการเลือกใช้ทรานซิชันแบบนุ่มนวลหรือการเลื่อนแบบนุ่มนวล ซึ่งจะช่วยให้เวลาเปลี่ยนหน้าสไลด์รู้สึกสมูทและเป็นหนึ่งเดียวกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้การเคลื่อนไหวเล็กน้อยเพื่อเพิ่มสิ่งที่ละเอียดอ่อนให้กับการนำเสนอได้ด้วย แต่ไม่ควรใช้เอฟเฟกต์พวกนี้มากเกินไป ควรใช้อย่างพอดีและให้เหมาะสมกับงานจะดีที่สุด



หนึ่งไอเดียต่อหนึ่งสไลด์

หลายคนอาจนำเสนอแนวคิดมากมายไว้ในสไลด์เดียว เพราะมันอาจดูเหมือนมีประสิทธิภาพที่จะมีข้อมูลอัดเแน่นเยอะ ๆ แต่ความเป็นจริงผู้ฟังอาจรู้สึกเหนื่อยล้าหรือคิดว่ามันไม่น่าฟังเอาซะเลย เพราะฉะนั้นสไลด์ของ TED Talks จึงมักมีแค่แนวคิดหลักประเด็นเดียวในแต่ละหนึ่งสไลด์ วิธีนี้จะช่วยให้ผู้ฟังตั้งใจและซึมซับได้ดีกว่าการอัดทุกอย่างลงไปในสไลด์หน้าเดียว



เลือกใช้ภาพที่คมชัด

อย่านำรูปภาพที่ไม่มีความคมชัดมาใส่ในสไลด์นำเสนอ และควรคำนึงถึงเรื่องลิขสิทธิ์ด้วย ภาพบน Google หลาย ๆ ภาพมักมีลิขสิทธิ์ ถ้าคุณต้องการใช้ก็ควรติดต่อเจ้าของภาพและขออนุญาตหรือทำการซื้อภาพก่อน ซึ่ง TED Talks ก็ได้แนะนำวิธีหาภาพที่คมชัดมาใช้ในสไลด์ด้วยการใช้ภาพที่แจกฟรีอย่างในเว็บไซต์ Pixabay, Freepik หรือ Unsplash เว็บพวกนี้สามารถนำภาพมาใช้ได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียเงินหรือขออนุญาตใด ๆ ส่วนไอคอนต่าง ๆ ก็มีให้ดาวน์โหลดฟรีเหมือนกัน คลิกที่นี่



อยากอัปสกิลการทำพรีเซนเทชั่นให้เก่งมากขึ้น อยากเรียนรู้เทคนิคดี ๆ ในการทำสไลด์ PowerPoint ขอแนะนำคอร์ส Shortcut PowerPoint​ Design คอร์สเรียนที่จะสอนเทคนิคของมืออาชีพในการออกแบบสไลด์พรีเซนเทชั่นให้ดูสวย น่าสนใจ อ่านข้อมูลง่าย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกงาน 

สนใจเรียนคอร์ส Shortcut PowerPoint​ Design คลิกที่นี่




ที่มาข้อมูล

  • https://speakerflow.com/how-to-write-a-ted-talk-in-7-easy-steps/
  • https://www.ted.com/participate/organize-a-local-tedx-event/tedx-organizer-guide/speakers-program/prepare-your-speaker/create-prepare-slides
  • https://www.duarte.com/presentation-skills-resources/5-tweaks-for-killer-ted-talk-slides/
  • https://sketchdeck.com/blog/ted-talk-presentations/
  • https://gihanperera.com/2022/03/5-ted-talk-secrets-to-revamp-your-online-presentations/