84% ของลูกค้าหรือผู้บริโภคบอกว่าพวกเขาถูกป้ายยาให้ซื้อสินค้าและบริการจากการดูวิดีโอ สถิตินี้นับว่าเป็นตัวเลขที่แบรนด์ต่าง ๆ รู้มานานแล้วว่าวิดีโอจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญทางการตลาดต่อไปในภายภาคหน้า พวกเขาจึงได้ทำคลิป ผลิตวิดีโอเกี่ยวกับสินค้าและบริการออกมามากมาย ยกตัวอย่างเช่น Instagram ที่ยืนยันหนักแน่นว่าพวกเขาต้องแชร์เนื้อหาประเภทวิดีโอมากขึ้น แม้จะโดนเสียงโอดครวญของผู้ใช้งานเหน็บแนมว่า '"Make Instagram Instagram Again" ก็ตามที เพราะความมาแรงของวิดีโอที่ฉุดไม่อยู่
ในฐานะเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่อยากลองถ่ายสินค้าง่าย ๆ ด้วยมือถือบอกเลยว่าไม่ยากอย่างที่คิด เพราะสิ่งสำคัญในการถ่ายสินค้าเพื่อทำวิดีโอโปรโมทให้ออกมาดีประกอบไปด้วยการให้ข้อมูลสินค้าที่เพียงพอ สร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้ซื้อ แต่ทั้งนี้แม้การทำวิดีโอโปรโมทสินค้าดูท่าว่าจะทำง่าย แต่ถ้าหากไม่รู้ขั้นตอน ไม่รู้จักประยุกต์อุปกรณ์ เผลอ ๆ ทำไปทำมางบอาจปานปลาย แถมยังไม่ได้งานอย่างที่ต้องการ โดยคุณสมบัติของการโฆษณาสินค้าที่ดีมี 4 ข้อที่ต้องจำให้ขึ้นใจ ดังนี้
มาเรียนรู้ขั้นตอนการทำวิดีโอโปรโมทสินค้าง่าย ๆ ตั้งแต่วิธีการถ่ายทำ ตัดต่อ ไปจนถึงเทคนิคการทำการตลาดด้วยวิดีโอง่าย ๆ สำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือเจ้าของธุรกิจที่อยากทำโปรดักส์ชั่นเอง
ถ่าย A-Roll ก่อนให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้วิดีโอของเราวกไปวนมา A-Roll คือ เนื้อหาหลัก ถ่ายตอนที่เราแนะนำสินค้าหรือบริการว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ แล้วอย่าลืมลิสต์ไว้ในโน้ตด้วยว่าเราพูดถึงอะไรไปบ้างใน A-Roll เช่น เราพูดถึงสีสันของสินค้า ปุ่มต่าง ๆ เพื่อที่ว่าเราจะได้ถ่ายรายละเอียดเหล่านั้นได้หมดใน B-Roll เพราะถ้าเราลืมถ่ายสิ่งที่เราพูดถึง วิดีโอก็อาจจะไม่สมบูรณ์แบบได้ เช่น เราพูดถึงขนาดของสินค้า แต่ลืมถ่ายช็อตเปรียบเทียบขนาดของสินค้า คนดูที่กดเข้ามาเพื่อที่จะดูขนาดของสินค้าก็อาจจะไม่ชอบใจได้ เพราะคลิปไม่ตรงปก
ขาตั้งกล้องมีได้ถ้างบถึงค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เราสามารถใช้มือของเรา + ท่าง่าย ๆ อย่างท่ายกศอกป้องกันไม่ให้มือสั่นระหว่างถ่ายสินค้าได้ วิธีการก็คือ ใช้มือซ้ายหรือขวาก็ได้แตะไหล่ฝั่งตรงข้าม (ถ้าถนัดขวาก็ใช้มือซ้ายเเตะไหล่ แต่ถ้าถนัดซ้ายก็ใช้มือขวาแตะไหล่) แล้วใช้มืออีกข้างในการถ่ายทำโดยวางมือถือไว้บริเวณต้นแขนของมือข้างที่แตะไหล่อยู่เหมือนเป็นฐานวางมือถือนั่นเอง วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ถือกล้องได้นิ่งแล้ว ยังช่วยให้ไม่เมื่อยเวลาถ่ายนาน ๆ ด้วย
หรือที่เราเรียกว่าการ Setup การจัดฉากถ่ายทำ โดยปกติแล้วถ้าเป็นการถ่ายวิดีโอสินค้าง่าย ๆ ที่บ้าน หรือในคอนโด เราต้องการแค่พื้นห้อง บนโต๊ะ หรือมุมบางมุมเท่านั้น แล้วหาจุดแสงที่เราชอบ บางคนที่ชอบแสงธรรมชาติก็ให้ถ่ายสินค้าใกล้หน้าต่าง แต่ใครที่ชอบแสงจัดฉากก็อาจซื้อไฟนีออนมาใช้ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับสไตล์ของวิดีโอและสินค้า จากนั้นกรองแสงด้วยร่มหรือกระดาษไขอีกที พื้นหลังใช้ฟิวเจอร์บอร์ดราคาไม่เท่าไหร่เป็น Backgroud เลือกสีได้ตามใจชอบ โดยสีในการถ่ายวิดีโอสินค้ามีอยู่ 3 สีหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่
การตั้งค่ากล้องเป็นสิ่งที่ต้องทำเพราะถ้าเราไม่ตั้งค่า กล้องก็จะตั้งค่าตามโหมด Auto ทำให้สีและเเสงที่เราเซ็ตไว้เพี้ยนได้ ดังนั้นต้องลองตั้งค่าที่ตัวเองรู้สึกว่าชอบ โดยตั้งต่า White Balance > Exposed > Resolution > Frame Rate เมื่อปรับทุกอย่างได้ตามใจชอบแล้วให้เราลองถ่ายดูก่อนว่ามันออกมาโอเคไหม ถ้าโอเคแล้วจึงค่อยถ่ายสินค้าจริงค่ะ โดยสามารถปรับตั้งค่ากล้องมือถือเพื่อถ่ายวิดีโอได้ตามบทความ สอนถ่ายทำ Vlog ด้วยมือถือ ให้ได้ภาพสวยเหมือนกล้องโปร
การถ่ายสินค้าจะต้องเป็นไปตามลิสต์ B-Roll คือ เราพูดถึงอะไรเกี่ยวกับสินค้า เราก็ต้องถ่ายตามนั้นอย่าให้ขาดแม้แต่จุดเดียว โดยหลักในการถ่ายสินค้าจะต้องประกอบด้วยหลาย ๆ มุม เพื่อให้ลูกค้าเห็นความน่าสนใจของสินค้าได้ทั่วถึง ซึ่งการถ่ายสินค้าจะต้องประกอบด้วยมุมต่าง ๆ ดังนี้
เมื่อได้ช็อตที่ต้องการในมุมที่เหมาะสมแล้วให้เราเพิ่มความน่าสนใจของวิดีโอด้วย Motion Shot เช่น การ Zoom In, Zoom Out หรือ Action shots คือ ถ่ายตอนที่เราลองสินค้าให้ดูจริง ๆ และสุดท้ายคือ A pull focus shot หรือการถ่ายช็อตหน้าชัดหลังเบลอ หรือจะถ่ายจากเบลอหน้าหลังชัดก็จะเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวสินค้ามากขึ้น
สำหรับการตัดต่อก็จะง่ายมาก ๆ หากเราถ่ายตามช็อตที่กล่าวมา ก็จะได้ช็อต A-Roll และ B-Roll ครบถ้วน ในขั้นตอนการตัดต่อเราก็จะแค่นำ A-Roll ตัดสลับกับ B-Roll ตามสตอรี่ที่วางไว้ แล้วเชื่อมแต่ละช็อตด้วย Transition และใส่ Effect ตามที่ต้องการ หากใครสนใจเรียนรู้การตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือง่าย ๆ ด้วยแอปเจ๋ง ๆ อย่าง KineMaster ขอแนะนำคอร์สตัดต่อวิดีโอด้วยมือถือ สร้างคลิปง่าย ๆ ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวที่จะมาบอกเคล็ดลับในการตัดต่อวิดีโอให้ได้คลิปที่พร้อมใช้งานแม้จะมีพื้นฐานเป็นศูนย์ คลิกที่นี่
ที่มาข้อมูล