เรื่องราวที่ได้รับการบอกเล่าอย่างดีคือสิ่งที่จะติดตรึงอยู่ในใจผู้ฟังไปอีกหลายปี ยกตัวอย่าง TED Talks ที่เรียบง่ายแต่ตราตรึงใจผู้ฟังคลิปนี้ Richard Turere เด็กชายชาวมาไซวัย 12 ปีจากประเทศเคนยา เขามาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ในบ้านเกิดด้วยคำที่เรียบง่ายและสไลด์ที่มีภาพที่คมชัด เขาบอกเล่าการคิดค้นระบบไฟที่สามารถปกป้องฝูงสัตว์ที่เลี้ยงไว้ให้ปลอดภัยจากการถูกสิงโตโจมตีได้
เหตุผลที่การนำเสนอของ Richard Turere ประสบความสำเร็จเพราะทุกคำที่เขาพูดและภาพที่นำเสนอ ช่วยสร้างภาพที่ชัดเจนของปัญหาที่เขาและครอบครัวต้องเผชิญ และการพูดของเขายังเป็นไปตามกฎทองของการนำเสนออีกด้วย เพราะเขาใช้ภาพที่ชัดเจนในการเสริมเรื่องราวแทนที่จะพูดซ้ำ ๆ วนไปวนมา ภาพที่ชัดเจนช่วยทำให้ผู้ฟังอินกับเรื่องราวได้มากขึ้น และเขายังให้รายละเอียดทางประสาทสัมผัสที่จะช่วยให้ผู้ฟังได้เห็น ได้ยิน รู้สึก และได้กลิ่นผ่านการเล่าเรื่องราวอีกด้วย
คนที่ชอบดูหนังหรืออ่านหนังสือจะรู้ดีว่าเรื่องราวที่ดีมักจะมีความขัดแย้ง และโครงสร้างของเรื่องกับองค์ประกอบของเรื่องราวคือสิ่งที่จะทำให้การนำเสนอน่าติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ฟังจะอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ซึ่งการบอกเล่าเรื่องราวตามลำดับเหตุการณ์และสรุปทีเดียวก็สามารถทำให้ผู้ฟังรู้สึกแบบนั้นได้
อย่างเรื่องราวของ Aimee Mullins นักกีฬาและนักแสดงที่เกิดมาพร้อมกับอาการป่วยที่ทำให้เธอต้องตัดขาส่วนล่างทั้งสองข้าง ซึ่งเธอได้เป็นนักกีฬาคนพิการคนแรกที่แข่งขันกับนักกีฬาทั่วไปในกิจกรรม National Collegiate Athletic Association และเข้าแข่งขันในพาราลิมปิกในปี 1996 ที่แอตแลนต้า ต่อมาในปี 1999 เธอเริ่มเป็นนางแบบ และในปี 2002 เธอเริ่มอาชีพนักแสดง บนเวที TED Talks เธอได้เล่าเรื่องแบบย้อนเวลากลับไปเพื่อเปิดเผยว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างไร
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีคือเรื่องราวของ Zak Ebrahim ที่มาบอกเล่าเรื่องคุณพ่อของเขาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ โดยเขาได้เล่าย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กและวิธีที่เขาเติบโตขึ้นมาเพื่อเลือกเส้นทางเดินที่แตกต่างจากพ่อของเขา การเล่าเรื่องแบบนี้คือการใช้โครงสร้างเรื่องแบบคลาสสิก คือ มีความขัดแย้งเกิดขึ้น และมีการเปลี่ยงแปลง (เหตุการณ์เป็นไปในเชิงบวก) และมีสิ่งที่ผู้ฟังได้เรียนรู้ โครงสร้างเรื่องแบบนี้แม้จะคลาสสิกแต่ก็ได้ใจผู้ฟังตลอดกาล
ตัวละครถือเป็นหัวใจของการเล่าเรื่องราว ไม่ว่าจะเรื่องที่น่ายินดี เรื่องเศร้า หรือเรื่องตลก ต่างก็จะมีตัวละครอยู่ในเรื่องราวนั้น ๆ ซึ่งเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จมากมักจะมีคาแรคเตอร์ตัวละครที่ชัดเจน หรือมีลักษณะที่ไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้เรื่องราวของคุณน่าสนใจมากขึ้น ครทำให้ตัวละครนั้นมีชีวิตขึ้นมาในใจของผู้ฟัง
การจะทำเช่นนั้นได้ คุณต้องให้รายละเอียดที่มากพอเพื่อทำให้ตัวละครนั้นมีชีวิตขึ้นมาในใจของผู้ฟัง ขอยกตัวอย่างเวที TED Talks ที่ Malcolm Gladwell นักเล่าเรื่องระดับปรมาจารย์ได้สร้างภาพที่สดใสของ Howard ในการนำเสนอครั้งนี้ โดยเขาได้บรรยายลักษณะทางกายภาพ นิสัยใจคอ บุคลิกภาพ และเล่าถึงงานอดิเรกและความหลงใหลของ Howard ซึ่งเขาได้อธิบายอย่างละเอียด มีดีเทลเกี่ยวกับ Howard มากพอจนทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตขึ้นมาในใจของผู้ฟังได้
แทนที่จะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้ฟังตรง ๆ ไปเลย คุณสามารถใช้การแสดงแทนการบอกเล่าได้ด้วย อย่างคลิปตัวอย่างนี้ที่ Dananjaya Hettiarachchi นำเสนอเรื่องราวโดยสร้างเหตุการณ์จำลองขึ้นมาทีละฉาก และใช้บทสนทนาแทนการบรรยาย ซึ่งคลิปนี้เขาบอกเล่าเรื่องราวออกมาได้ดีมากจนได้รับรางวัล World Championship of Public Speaking ในปี 2014
เทคนิคการแสดงแทนการบอกเล่าจะช่วยให้ผู้ชมได้สัมผัสกับประสบการณ์ของผู้พูดได้อย่างเต็มที่ และรายละเอียดต่าง ๆ จะเข้าไปอยู่ในความทรงจำของผู้ชมอย่างชัดเจน ก็ถือเป็นอีกเทคนิคที่ดีในการเล่าเรื่องให้โดนใจผู้ชม
Akash Karia ผู้เชี่ยวชาญด้านการนำเสนอได้ทำการวิเคราะห์การพูดบนเวที TED Talks โดยได้คัดเรื่องที่ดีที่สุด 200 เรื่อง และพบว่าการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพสูงจะต้องมีความขัดแย้งในเรื่องเล่าและต้องมีจุดไคลแมกซ์ รวมถึงจะต้องมีการแก้ปัญหาในเชิงบวกด้วย โดยส่วนใหญ่จะเป็นช่วงท้ายของการเล่าเรื่องที่จะปิดท้ายด้วยการเอาชนะอุปสรรคได้หรือมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น สตอรี่แบบนี้มักจะโดนใจผู้ฟังมากที่สุด
ที่มาข้อมูล