Pitching คือ การนำเสนอเพื่อโน้มน้าวผู้ฟังให้ยอมรับ ทำตาม ลงทุน หรือซื้อสินค้าและบริการ ตามข้อมูลที่เรานำเสนอไป ส่วนใหญ่มักใช้ในการนำเสนอไอเดียหรือธุรกิจ Startup ให้กับนักลงทุนเพื่อให้เกิดการร่วมทุนหรือซื้อผลงานไปผลิตในเชิงพาณิชย์
Pitching คือการจีบ จะทำอย่างไรให้เขาสนใจเราและเลือกเรา ซึ่งมันจะแตกต่างจากการพรีเซนเทชั่นที่พูดจบแล้วไม่มี Action ต่อ สรุปแล้วก็คือ Pitching เปรียบเหมือนกับการจีบ เราต้องทำให้เขาสนใจและสานสัมพันธ์ต่อกับเรา หรือเลือกเรานั่นเอง
ไม่ว่าคุณจะพูดเก่งแค่ไหน แต่ก็ควรทำการบ้านให้ดี ควรใช้เวลาในการหาข้อมูลล่วงหน้า เพราะคุณจำเป็นต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับลูกค้า ผลิตภัณฑ์หรือบริการ กลุ่มเป้าหมาย คู่แข่ง และอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณจะนำเสนอ เพราะการค้นคว้าข้อมูลที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าใจและพูดออกมาได้ดี รวมถึงสามารถตอบคำถามที่ลูกค้าสงสัยได้อย่างมั่นใจด้วย
องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เรื่องราวของคุณน่าฟังและโดนใจก็คือ โครงสร้างของเรื่อง โดยสามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ได้
คุณสามารถใช้เทคนิคการพูดเหมือนกับการนำเสนอพรีเซนเทชั่นได้ เพราะมันคือการใช้ทักษะการพูดและนำเสนอเหมือนกัน ได้แก่
สามารถเรียนรู้เทคนิคการนำเสนอได้อีกมากมาย คลิกที่นี่
การ Pitching ที่ดีควรจะมีช่วงเวลาถามตอบเพื่อให้ผู้ฟังได้หายสงสัยหรือเข้าใจมากขึ้น การถามตอบยังช่วยให้ผู้ฟังเกิดการตั้งคำถามและมุ่งความสนใจมาที่สิ่งที่คุณพูดได้อีกด้วย โดยควรให้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที หากผู้ฟังต้องการเวลามากขึ้นเพื่อเจาะลึกในคำถามและคำตอบนั่นถือเป็นสัญญาณที่ดี คุณควรจัดการนัดครั้งที่สองเพื่อพูดคุยกับพวกเขาอีกรอบ
Tip: หากคุณตอบคำถามไม่ได้ ควรตอบกลับไปประมาณว่า “นี่เป็นคำถามที่ดี แต่ฉันยังไม่มีคำตอบให้ในตอนนี้ ขอฉันส่งอีเมลตอบกลับเรื่องนี้เมื่อฉันได้ตรวจสอบรายละเอียดอย่างดีแล้ว”
ก่อนจะลงสนามจริงที่มีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้ฟัง คุณต้องฝึกซ้อมให้เยอะ ลองฝึกซ้อมต่อหน้าเพื่อน ๆ และให้พวกเขาคอมเมนต์ว่าควรปรับปรุงแก้ไขตรงไหน เช่น คุณพูดเยิ่นเย้อไปหรือเปล่า เวลาพูดบุคลิกยังดูไม่มั่นใจไหม รวมถึงให้พวกเขาลองตั้งคำถามด้วย การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือและประสบความสำเร็จในการ Pitching ได้ นอกจากนี้การฝึกซ้อมยังช่วยลดความรู้สึกประหม่าได้ดีด้วย เมื่อคุณฝึกซ้อมจนมั่นใจเวลานำเสนอจริงมันจะโฟลว์อย่างลื่นไหลสุด ๆ
การนำเสนอที่ดีควรจะให้ผู้ฟังเห็นภาพหรือรายละเอียดต่าง ๆ ดังนั้นคุณจึงควรมีสไลด์สำหรับนำเสนอด้วย และควรเตรียมตัวให้พร้อมด้วยหากต้องนำเสนอผ่านทางออนไลน์ คุณควรทดลองใช้แพลตฟอร์มที่จะนำเสนอทางออนไลน์ให้คุ้นเคย เพื่อจะได้นำเสนอได้อย่างราบรื่น โดยสามารถอ่านบทความ 6 เคล็ดลับนำเสนองานออนไลน์ พรีเซนต์อย่างไรให้ดูเป็นมือโปร
แม้ว่าคุณจะค้นหาข้อมูลมาอย่างดี ฝึกซ้อมจนมั่นใจ แต่มันก็มีความเป็นไปได้เสมอที่ลูกค้าอาจจะชอบการนำเสนอของคนอื่น หรือยังไม่ซื้อไอเดียของคุณ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา หากถูกปฏิเสธก็อย่ามองว่าทุกอย่างที่ทำมานั้นสูญเปล่า คุณควรเก็บไฟล์ทุกอย่างไว้ เพราะมันอาจได้ใช้ต่อในอนาคต หรือคุณอาจนำแนวคิดนี้ไปพัฒนาต่อเพื่อนำเสนอขายให้ลูกค้ารายอื่นก็ได้
อยากพัฒนาทักษะการทำ PowerPoint ให้เก่งขึ้น อยากทำสไลด์นำเสนองานให้ออกมาดูดี โดดเด่น และไร้ข้อผิดพลาด ขอแนะนำคอร์ส Shortcut PowerPoint Design คอร์สเรียนที่จะสอนเทคนิคของมืออาชีพในการออกแบบสไลด์ PowerPoint ให้ดูสวย น่าสนใจ อ่านข้อมูลง่าย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกงาน
ที่มาข้อมูล