วิธีเลือกใช้แผนภูมิและกราฟ PowerPoint ให้ตอบโจทย์งาน
18928 views | 13/09/2022
Copy link to clipboard
Apple W.
Content Creator

หลังจากที่เราคลุกคลีการทำสไลด์มาสักพัก เราจะสังเกตเห็นว่า PowerPoint มี Charts เยอะมาก ทั้งแผนภูมิ ตาราง และกราฟอยู่หลายแบบ แล้ว PowerPoint Chart แบบไหนล่ะที่เหมาะกับข้อมูลหรือสไตล์งานนำเสนอของเราที่สุด ? เช่น แผนภูมิแท่ง (Bar Charts),  แผนภูมิเส้น (Line Charts), แผนภูมิวงกลม (Pie Charts) ฯลฯ แต่ละ Charts ควรใช้กับข้อมูลประเภทไหนถึงจะช่วยแปลงข้อมูลออกมาให้เป็นภาพ (Visualization) ให้คนดูเก็ทมากที่สุด วันนี้เราจะไปเรียนรู้เทคนิคนี้กัน 



6 ประเภทของแผนภูมิและกราฟ (PowerPoint Charts) และการใช้งาน


1. แผนภูมิแกนต์ (Gantt Chart) 



แผนภูมิแกนต์นิยมใช้ทำ Project Planner โดยระบุหัวข้อกิจกรรมที่เกิดขึ้นในหนึ่งช่วงเวลาของการวางแผนงาน ซึ่งจะมีการแสดงระยะเวลาของแต่ละกิจกรรมให้อยู่ในรูปของเส้นแถบแนวนอน เหมาะสำหรับการวางแผนกิจกรรมการทำงานที่มีระยะเวลานานและซับซ้อน หรือต้องการติดตาม Process ของงานเทียบกับ Timeline ที่วางเอาไว้ ต้องการดูว่าในการดำเนินโครงการมีกิจกรรมอะไรบ้างที่จะต้องทำในช่วงเวลาเดียวกัน และต้องการจัดลำดับการทำงานให้สำเร็จตาม Timeline เป็นต้น   


FUN FACTS:

แผนภูมิแกนต์ (Gantt Chart) ตั้งชื่อตาม Henry Laurence Gantt วิศวกรเครื่องกลชาวอเมริกัน เขาสร้างแผนภูมิแกนต์ในทศวรรษที่ 1910 เพื่อใช้ในการวางแผนระยะเวลาที่ใช้ของงานแต่ละงานว่าโครงการนี้มีงานย่อย ๆ อะไรบ้าง และแต่ละงานใช้เวลาเท่าไหร่ ควรเสร็จเมื่อไหร่ และงานไหนมาก่อนมาหลัง 



2. แผนภูมิแท่ง (Bar Charts) 



แผนภูมิแท่งทั้งแนวตั้งและแนวนอนนิยมใช้เพื่อแสดงความผันผวนของข้อมูล เปรียบเทียบจำนวน เปอร์เซ็นต์ หรือจัดอันดับข้อมูลตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป โดยกราฟแท่งแนวตั้งนิยมใช้ในการเปรียบเทียบข้อมูลชนิดเดียวกันที่เวลาแตกต่างกัน ส่วนกราฟแท่งแนวนอนมักใช้เปรียบเทียบข้อมูลต่างชนิดกันที่เวลาเดียวกัน

โดยแผนภูมิแท่งมักใช้กับข้อมูลประเภทการสำรวจ (Surveys) การประเมินผล (Evaluation) และสถิติ (Statistics)


ข้อควรระวังในการใช้แผนภูมิแท่งก็คือ การตกแต่งกราฟแท่งมากเกินไป เช่น ใส่รูปภาพในแผนภูมิจนลายตา ก็อาจส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการอ่านค่ากราฟลดลง คนดูไม่เข้าใจได้  



 3. แผนภูมิวงกลม (Pie Charts) 



แผนภูมิวงกลมเหมาะกับการนำเสนอข้อมูลที่มีส่วนประกอบย่อยที่รวมกันเป็นส่วนใหญ่ แสดงสัดส่วนของข้อมูลต่าง ๆ ต่อข้อมูลทั้งหมดที่คิดเป็น 100% เช่น ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share), ข้อมูลแสดงส่วนผสมต่าง ๆ เป็นต้น 


ข้อควรระวังในการใช้แผนภูมิวงกลมก็คือ ไม่ควรมีความแตกต่างของจำนวนตัวเลขของข้อมูลน้อยเกินไป จนไม่สามารถแบ่งแยกความแตกต่างด้วยสายตาได้ และควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 7% ไม่อย่างนั้นจะแยกออกมาไม่ชัดเจนมากพอนั่นเอง



4. กราฟเส้น (Line Charts) 



กราฟเส้นมักใช้ในการนำเสนอข้อมูลที่ต้องการให้เห็นแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง มากกว่าจะแสดงเพียงจำนวนตัวเลขที่แท้จริงเท่านั้น เช่น ราคาหุ้น, ชั่วโมงการใช้มือถือในแต่ละวันของคนไทยช่วงก่อนและหลังโรคระบาด เป็นต้น เพื่อต้องการเห็นรูปแบบ แนวโน้ม และการคาดการณ์ของข้อมูล (ว่าเพิ่มหรือลดลงอย่างไร)


ข้อความระวังในการใช้กราฟเส้นก็คือ ควรรวบรวมข้อมูลเพื่อเเสดงในกราฟให้มากกว่าจุดเดียว และได้หลาย ๆ จุด  



5. แผนภูมิพื้นที่ (Area Charts)



แผนภูมิพื้นที่จะแสดงให้เห็นปริมาณความแตกต่างระหว่างเส้น (ความหนา) เหมาะสำหรับเน้นความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงเวลา จะมีหน้าตาคล้ายกราฟเส้นเลยค่ะ แต่มีการแรเงาพื้นที่ใต้เส้นข้อมูลหรือระหว่าง 2 เส้น เพื่อแสดงให้เห็นผลรวมของความแตกต่างระหว่างข้อมูลทั้งสองชุด เช่น การแสดงกำไรของสินค้าแต่ละชนิด, อัตราการเสียชีวิตด้วยกลุ่มโรค NCDs เป็นต้น 



6. แผนภูมิรูปภาพ (Picture Graph) 



แผนภูมิรูปภาพก็เป็นแผนภูมิที่ทำง่าย คนเห็นแล้วเก็ทไว เป็นแผนภูมิที่ประกอบไปด้วยแกนนอนและแกนตั้ง มีลักษณะคล้าย ๆ กับแผนภูมิแท่ง แต่แทนที่จะเลือกใช้แท่งทื่อ ๆ เราจะเปลี่ยนไปเลือกใช้รูปภาพหรือไอคอนแทนจำนวนของสิ่งของนั้น ๆ แทน ทำให้งานดูน่ารักมากขึ้น ดู Friendly มากขึ้น เช่น แผนภูมิรูปภาพแสดงความนิยมของนม 2 ยี่ห้อ, แผนภูมิรูปภาพแสดงผลโหวตการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. เป็นต้น 


ข้อควรระวังในการใช้แผนภูมิรูปภาพก็คือ ไม่ควรมีจำนวนของข้อมูลที่นำมาเปรียบเทียบมากเกินไปเพราะจะสร้างความสับสนได้ 



เราจะเห็นว่ารูปแบบการนำเสนอข้อมูลมีหลายแบบมากมาย อย่างแรกเลยก็คือเราต้องพิจารณาข้อมูลที่มีก่อน และศึกษาคุณสมบัติต่าง ๆ ของรูปแบบการนำเสนอข้อมูล เพื่อที่จะสามารถเลือกรูปแบบ PowerPoint Charts ที่เหมาะสมกับการสื่อสารข้อมูลของเราได้ดีที่สุด สำหรับใครที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการทำ Charts ต่าง ๆ ออกแบบสไลด์ให้ดูโปรมากขึ้น ขอแนะนำคอร์ส ‘PowerPoint​ Infographic​ for​ Business’ คลิกที่นี่ 



ที่มาข้อมูล

  • https://www.empowersuite.com/en/blog/list-powerpoint-charts
  • https://support.microsoft.com/th-th/office/%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93-c74616f1-a5b2-4a37-8695-fbcc043bf526
  • http://thaincd.com/document/file/info/non-communicable-disease/6.%20%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%20%20%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%20%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87.pdf
  • https://www.9experttraining.com/articles/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A-visualization-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5
  • http://designtechnology.ipst.ac.th/wp-content/uploads/sites/83/2019/01/%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-gantt-chart.pdf