Cr.Apple
การเล่าเรื่องหรือว่า Storytelling เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ Apple ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ แถมยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สร้างคอนเนคชั่นที่แข็งแกร่งมาก ๆ กับลูกค้า เพราะแอปเปิลไม่ได้มาพูดขายของ แต่มาเล่าเรื่องเพื่อขายประสบการณ์ ยกตัวอย่างสไลด์แรกของ Apple Event ‘Far Out’ 2022 กับการเปิดตัว Apple Watch Series 8 ซึ่ง Apple ให้ลูกค้าจากทั่วโลกมาเล่าประสบการณ์เฉียดตายของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เครื่องบินตก หมีบุกเข้าบ้าน ภาวะตัวเย็นเกินระหว่างเล่น Ice Skate และพนักงานเก็บขยะหมดสติติดอยู่ในรถเก็บขยะ เป็นต้น แต่พวกเขาทั้งหมดก็รอดตายมาได้เพราะใส่ Apple Watch
ซึ่งการขายสินค้าที่ผูกเรื่องราวแบบนี้จะยิ่งทำให้คนฟัง ‘อยากได้’ ประสบการณ์แบบนั้นบ้าง แล้วทำอย่างไรล่ะ ถึงจะได้ประสบการณ์แบบนั้น ? ก็ต้องซื้อสินค้านั้นนั่นเอง ‘การเล่าเรื่อง’ จึงเป็นหัวใจหลักของสไตล์ Apple ต้องเลือกสรรเรื่องเล่าที่สามารถสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้าได้ ต้องเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ มีอารมณ์ร่วมไปด้วยได้ แล้วทีนี้จะขายอะไรลูกค้าก็พร้อมขายไตมาซื้อ !
Cr.Apple
ถึงแม้ว่าคุณจะเป็น Tim Cook แต่ก็ไม่มีอะไรจะมาการันตีได้เลยว่าคนดูจะไม่เบื่อกันไปซะก่อน ดังนั้น Apple จึงให้เทคนิคในการพรีเซนต์อยู่ 2 สเต็ปด้วยกัน นั่นก็คือ ก่อนที่จะเปิดตัว Products ไหนก็ตาม คุณทิม คุกจะต้องพูดสรุปเกี่ยวกับสินค้านั้นภายใน 1 นาที (ผู้เขียนนั่งจับเวลาทุกสไลด์เลยค่ะ มั่นใจได้)
เมื่อพูดสรุปครบ 1 นาทีแล้ว คุณทิมก็จะส่งไม้ต่อให้กับ Speaker คนอื่นในทีมเพื่อพูดลงดีเทลเกี่ยวกับสินค้านั้นโดยละเอียดยิบ เทคนิคนี้นับว่าเป็นเทคนิคการพรีเซนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อป้องกันไม่ให้คนฟังเบื่อและเข้าใจสิ่งที่ต้องการจะเน้นในการนำเสนอให้ได้มากที่สุดนั่นเอง อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฏการพูดสรุป 1 นาทีได้ ที่นี่
Cr.Apple
หากจะตอบให้ชัดว่า Concept อะไรที่ถูกใช้ออกแบบสไลด์ในงาน Apple Event ‘Far Out’ 2022 ก็คงต้องตอบว่ามันคือ หลัก 1 ธีม 1 สไลด์ 1 Speaker เพราะสินค้าที่นำมาเปิดตัวของแอปเปิลครั้งนี้มีอยู่ทั้งหมด 6 ตัว ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความจำเจ แทนที่จะให้คน ๆ เดียวพูดเกี่ยวกับสินค้าทั้งหมด แอปเปิลได้ใช้หลัก 1 ธีม 1 สไลด์ 1 Speaker แทน
1 ธีม 1 สไลด์หมายถึง การใช้ธีมเดียวกับ 1 เรื่องเท่านั้น ไม่ใช้ธีมเดียวกันทั้งหมด ไม่อัดคอนเทนต์ทั้งหมด ไอเดียทั้งหลายลงในสไลด์ทั้งหมด แต่จะแยกพาร์ท แยกไอเดีย และสไตล์ของแต่ละพาร์ทอย่างชัดเจนตามสินค้านั้น ๆ ซึ่งแต่ละพาร์ทของสินค้าก็จะเปลี่ยน Speaker คนละคน ทำให้ไม่น่าเบื่อ น่าติดตาม และมีความเป็นทีมเดียวกันอีกด้วยค่ะ
Cr.Apple
เพราะแค่ฟังคนพูด แม้ว่าเนื้อหาจะดีแค่ไหนคนเราก็ต้องมีเบื่อกันบ้าง หนึ่งในเทคนิคการพรีเซนต์ในอีเวนต์ Apple Event ‘Far Out’ ที่ทำให้การพรีเซนต์ไม่แห้งและดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ง่าย ๆ เลยก็คือ การแทรกวิดีโอเข้ามาระหว่างสไลด์ เทคนิคนี้จะทำให้คนดูไม่เบื่อ และกลายเป็น Soft Breaks ที่น่าติดตาม โดยมีแพทเทิร์นง่าย ๆ คือ Slides-demo-slides-demo-slides
Slides-demo-slides-demo-slides ก็คือ การที่ Speaker จะพูดเกี่ยวกับ Products นั้น ๆ เสร็จแล้วก็จะตัดไปเป็นวิดีโอ Testimonial เพื่อให้เห็นการใช้งานจริงของสินค้าในสถานการณ์จริง ๆ แล้วจึงตัดมาที่ Speaker อีกครั้ง ทำแบบนี้จนกว่าจะจบพรีเซนต์ คนฟังก็จะได้เห็นภาพเมื่อใช้งานจริงอีกด้วย
Cr.Apple
มาถึงเคล็ดลับการเลือกสีในการออกแบบสไลด์จาก Apple Event ‘Far Out’ 2022 ที่นอกจากจะต้องออกแบบให้กลมกลืนกันทั้งสไลด์แล้ว ยังต้องเลือกสีที่สื่อถึงสินค้าได้อีกด้วย ซึ่งครั้งนี้ Apple เลือกจับคู่สีแบบ Monochrome คือ เลือกใช้คู่สีที่มีความใกล้เคียงกันของสี สีที่ไปด้วยกันได้ ไม่ขัดแย้ง โดยแบ่งออกเป็นสีหลัก 70% สีรอง 25% และสีเน้น 5% เช่นในตัวอย่าง สีที่ใช้เป็นสีหลักคือสีดำ สีรองคือสีขาว และสีเขียวคือสีเน้นค่ะ
เมื่อไหร่ที่ต้องพรีเซนต์ Products ชิ้นไหน สีของสไลด์ก็จะถูกเปลี่ยนไปให้กลมกลืนกับสีของ Products หรือไม่ก็ใกล้เคียงที่สุด แถมยัง Highlight จุดสำคัญด้วยสีเดียวกันทั้งสไลด์ ทำให้สไลด์ดูสบายตา กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกใช้สีในสไลด์ได้ ที่นี่
Cr.Apple
มาถึงเคล็ดลับการวางรูปภาพที่ Apple ใช้ออกแบบสไลด์ในอีเวนต์ Apple Event ‘Far Out’ 2022 ที่แน่นอนว่าจะต้องมีรูปภาพ Products ยุบยับเต็มไปหมด แล้วจะทำอย่างไรดีให้วางรูปของสินค้าทั้งหลายไว้ในสไลด์เดียวกันได้อย่างสบายตาและไม่รก ? คำตอบก็คือเส้น Grid นั่นเองค่ะ
Grid เป็นเครื่องมือที่ใช้ง่ายมาก และมีอยู่ในทุกโปรแกรมนำเสนอ ซึ่งแอปเปิลก็เน้นความเรียบง่ายอยู่แล้ว ใช้เส้น Grid ในการวาง Layout รูปภาพของสินค้าทั้งหมดในสไลด์เดียว โดยวางรูปหลักไว้ตรงกลางสไลด์ รอบ ๆ ซ้ายขวา บนและล่าง ก็จะเป็นรูปของส่วนประกอบของรูปหลักอีกที เช่น ฟังก์ชั่นการใช้งานและตัวเลขที่สำคัญ ๆ เท่านั้น
หากใครสนใจเรียนรู้การทำสไลด์อย่างมืออาชีพเหมือน Apple เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการนำเสนอให้ดียิ่งขึ้นด้วยโปรแกรม PowerPoint ช่วยให้การนำเสนอมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม สอนโดยผู้เชี่ยวชาญตัวจริง เรียนแล้วนำไปใช้งานได้เลยทันที กับคอร์ส ‘Shortcut PowerPoint Design’ สนใจเรียน คลิกที่นี่
ที่มาข้อมูล