Essay คือ เรียงความหรือบทความที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ มักใช้วัดทักษะการเขียนในการสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษต่าง ๆ เช่น IELTS, TOEFL, SAT เป็นต้น ดังนั้นครั้งนี้จะแนะนำโครงสร้างและวิธีการเขียนเพื่อเรียกคะแนน part Writing โดยเฉพาะ IELTS ให้ทะลุ Band 9.0
สิ่งสำคัญที่สุดในการเขียน Essay คือเข้าใจโครงสร้างที่โดยพื้นฐานประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ
1. Introduction
Introduction คือ บทนำ เป็นส่วนแรกของบทความ ที่จะบอกว่าบทความนี้นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องอะไร โดยยังไม่ใส่รายละเอียดมากนัก Introduction ต้องดึงดูดใจผู้อ่าน นำเข้าสู่หัวข้อเรื่อง และนำเสนอใจความหลัก องค์ประกอบหลัก ๆ ที่ Introduction ต้องมีคือ
1.1. hook เป็นการบรรยายทั่วไปหรือทิศทางเข้าสู่หัวข้อเรื่อง โดยประโยคแรกจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของบทความทั้งหมด ซึ่ง hook มักจะมี 1-2 ประโยค ที่ต้องกระชับ ชัดเจน น่าสนใจ ตรงประเด็น
1.2. Thesis statement เป็นการพูดถึงใจความหลักของ Essay ส่วนนี้เป็นหนึ่งส่วนสำคัญที่สุด เพราะจะโฟกัส Essay ให้แคบลง และเป็นส่วนที่จะอธิบายให้ผู้อ่านทราบว่าพูดถึงหัวข้อใด ตอบโจทย์อย่างไร มักมี 1-2 ประโยค
1.3. Main points (overview) แสดงภาพรวมสั้นๆ สรุปย่อหัวข้อหลัก ข้อคิดเห็น และประเด็นที่เขียนใน Essay
2. Body
Body คือ เนื้อความ เป็นส่วนรวมเนื้อหา ใจความสำคัญของเรียงความ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ยาวที่สุด มีได้หลายย่อหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะมี 3-5 ย่อหน้า
Body มี 2 ส่วน คือ
1. Topic Sentence อยู่ส่วนแรกของแต่ละ Body เป็นตัวบอกให้ผู้อ่านรู้ว่าเนื้อความย่อหน้านี้พูดถึงเรื่องอะไร
2. Supporting details ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือขยายความจาก Topic Sentence รวมถึงยกตัวอย่างเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น
ลักษณะเด่น ๆ ของ Body คือ
- ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยการ ยกตัวอย่าง, เปรียบเทียบ, ให้คำนิยาม อธิบายความหมาย และมีการจำแนกประเภท
- เนื้อหาต้องเกี่ยวข้องกับใจความหลัก
- ต้องนำเสนอความเป็นจริงและรายละเอียดที่ทำให้ใจความหลักมีความสมเหตุสมผล
- ต้องนำเสนอรายละเอียดที่สนับสนุนหรืออธิบายความคิดในใจความหลักของเรา
- นำเสนอเนื้อหาที่โน้มน้าวใจผู้อ่านจากข้อเท็จจริงที่สมเหตุสมผล
3. Conclusion
Conclusion คือ ย่อหน้าสุดท้ายของ Essay เป็นส่วนที่สรุปย้ำใจความสำคัญเนื้อหาอีกครั้ง มักมี 1 ย่อหน้า
1. เลือกหัวข้อ
ผู้เขียนอาจได้เขียนตามหัวข้อที่กำหนด หรือได้เลือกเขียนหัวข้อตามอิสระ ถ้าได้เขียนตามหัวข้อที่กำหนด ควรมองภาพรวมของเนื้อหาหรือการวิเคราะห์แบบเฉพาะเจาะจง จำกัดโฟกัสของเราให้แคบลง แต่ถ้าได้เลือกเขียนหัวข้อตามอิสระ อันดับแรกกำหนดวัตถุประสงค์ของ Essay ว่าจะเป็นแนะนำหรือโน้มน้าวใจ เมื่อกำหนดวัตถุประสงค์แล้วหาหัวข้อที่สนใจและเกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา สุดท้ายประเมินตัวเลือกของเรา ถ้าเป้าหมายคือการศึกษา ก็เลือกเนื้อหาที่ได้เรียนไปแล้ว หรือถ้าเป้าหมายคือการโน้มน้าวใจ ก็เลือกเนื้อหาที่เราหลงใหล อย่างไรก็ตามการเขียน Essay ต้องมั่นใจว่าตัวเราสนใจในหัวข้อของเราจริง ๆ
2. วางแผน
แม้จะเป็นการเขียนในระหว่างการสอบ จงยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อวางแผนระดมความคิดก่อนเริ่มต้นเขียนเพราะการวางแผนรวบรวมความคิดจะช่วยให้หา Supporting idea หรือเหตุผลที่ดีที่สุดเพื่อสนับสนุน Topic sentence ได้มากกว่าความคิดแรก และวางตำแหน่งใน Essay ได้ตามลำดับ Supporting idea ที่ดีที่สุด คือ ความคิดที่ชัดเจนที่สุดประกอบกับความรู้ที่เรามี
3. ใช้คำ วลีและประโยคอย่างหลากหลาย
ความหลากหลายของประโยคและคำศัพท์เป็นหนึ่งในจุดเด่นของการเขียนที่มีประสิทธิภาพ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำและวลีซ้ำ ๆ ในขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงการเริ่มต้นประโยคน่าเบื่อ ๆ ในรูปแบบ subject + verb + direct object (ประธาน +กริยา + กรรมตรง)
4. ตรวจเช็กความเรียบร้อย
หลังจากเขียนเสร็จเรียบร้อย อ่านทบทวนตรวจสอบคำถูกผิด ไวยากรณ์ ลำดับของย่อหน้า ถ้าเป็นเรียงความอธิบายขั้นตอนการทำบางสิ่งบางอย่าง ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเขียนตามลำดับขั้นตอนที่ถูกต้องหรือไม่
5. ฝึกเขียนบ่อย ๆ
การเขียนที่ดีไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นต้องฝึกเขียนบ่อย ๆ แม้ว่างานเขียนชิ้นแรกจะไม่ได้ออกมาระดับ masterpieces ก็ตาม แต่การฝึกเขียนบ่อย ๆ จะทำให้งานเขียนเราดีขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมสำหรับการสอบในสนามจริง
IELTS Writing by Paddington
เขียนอย่างไรให้ได้คะแนน กับ คอร์ส IELTS Writing ปูพื้นฐานและให้เทคนิคการเขียน ครบทั้ง 2 บทความ คือ อธิบาย Graph และ Opinion Writing สมัครเรียนเลย https://vcourse.ai/courses/240
ที่มาข้อมูล