ข้อสอบ Error&Cloze เป็นการวัดความรู้ด้านไวยากรณ์หรือ Grammar โดยให้ประโยคมาและขีดเส้นใต้ 4 จุดในประโยคเพื่อให้ผู้สอบเลือกจุดที่ใช้ไวยากรณ์ผิด ดังนั้นจะคว้าคะแนนส่วนนี้ต้องมีความรู้เรื่องไวยากรณ์ให้แม่น และต้องมีเทคนิคในการทำข้อสอบเพื่อค้นหาคำตอบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
1. เน้นที่โครงสร้างประโยค
2. ดูโครงสร้างแกรมม่า
3. พิจารณารูปกริยาที่ถูกต้องและเหมาะสม
4. เข้าใจความหมาย
5. ตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกต้องออกไป
a b
1. Thailand is to raise the problem of Burmese refugees in discussions
c d
when the Thai-Burmese Border Committee meeting will assemble today.
คำตอบคือ ข้อ d. will assemble
วิเคราะห์ จากโจทย์กล่าวว่า “ประเทศไทยจะยกปัญหาผู้ลี้ภัยชาวพม่าขึ้นมาในการอภิปรายขณะการประชุม Thai-Burmese Border Committee ที่จะประชุมกันวันนี้” ดังนั้นข้อนี้จุดผิดอยู่ที่ข้อ d. will assemble ซึ่งเป็น Future simple แต่เนื่องจาก กำหนดการประชุมวางไว้ว่าจะมีการประชุมกันวันนี้แน่นอน เป็นเรื่องในอนาคตที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นนอน ต้องใช้ Present Simple ดังนั้นที่ถูกต้องต้องใช้เป็น assembles **โจทย์ข้อนี้วัดไวยากรณ์เรื่อง Present Simple
Present Simple Tense เป็นประโยคที่มีโครงสร้างแบบง่าย ๆ เพื่อใช้พูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน
โครงสร้างประโยค
ประโยคบอกเล่า : S + V.1 (s, es)
*ประธานเอกพจน์ (He, She, It) กริยาเอกพจน์ต้องเติม s, es / ประธานเป็น I, You หรือพหูพจน์ (You (หลายคน), We, They) กริยาเป็นพหูพจน์ โดยคงรูปเดิมกริยานั้นไว้
ex. He plays guitar very well. (เขาเล่นกีตาร์เก่งมาก)
ประโยคคำถาม : V.to be + S + O/Complement?
V.to do + S + V.1 + O?
ex. Is she your sister? (หล่อนเป็นน้องสาวคุณหรือเปล่า?)
ex. Do they play football every evening? (พวกเขาเล่นฟุตบอลทุกเย็นหรือเปล่า?)
ประโยคปฏิเสธ : S + V.to be + not + O/Complement
S + V.to do + not + V.1 + O
ex. I am not your servant. (ฉันไม่ได้เป็นคนรับใช้ของคุณ)
ex. He does not watch television at home. (เขาไม่ได้ดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน)
หลักการใช้ Present Simple
1. ความจริง ธรรมชาติ หลักวิทยาศาสตร์
2. กิจวัตรประจำวัน ทำบ่อยๆ
3. กำหนดการ ตารางเวลาที่ระบุชัดเจน
*หลักการใช้ Present Simple ทั้งสามข้อพบได้ทั่วไปในทุกประเภทการสอบ โดยเฉพาะในข้อที่ 3
การใช้ Present Simple เพื่อบอกกำหนดการ ตารางเวลาที่ระบุชัดเจน
Present Simple ใช้กับกำหนดการและตารางเวลาที่กำหนดไว้ว่าจะเกิดในอนาคตที่แน่นอน โดยจะใช้กับกำหนดเวลาการเดินทางต่าง ๆ เช่น กำหนดการบิน กำหนดการออกของรถไฟ เวลาเข้าเรียน เวลาเลิกเรียน วันที่จะเปิดเทอม กำหนดการประชุม เวลาเริ่มของภาพยนตร์, คอนเสิร์ตต่าง ๆ เป็นต้น
ex. School begins at nine tomorrow.
(พรุ่งนี้โรงเรียนเริ่มตอน 9 โมง)
ex. What time does the concert start?
(คอนเสิร์ตเริ่มกี่โมง)
ex. The train doesn’t arrive at seven, it arrives at seven thirty.
(รถไฟไม่ได้มาถึงตอน 7 โมง แต่จะมาถึงตอน 7 โมงครึ่ง)
เรียนรู้เนื้อหาและเทคนิคการทำข้อสอบ TU-GET ครบทุกพาร์ทได้ที่คอร์ส COMPLETE TU-GET by ครูพี่ทาม์ย คอร์สเตรียมสอบ TU-GET (PBT) ครบถ้วนทุกทักษะ อธิบายเนื้อหาอย่างละเอียดแบบเจาะลึก พร้อมเทคนิคในการทำข้อสอบให้ตรงตามที่โจทย์ต้องการและทันเวลา ให้ได้คะแนน 800+ อย่างสบาย ๆ สมัครเรียนเลยที่ >>> คลิก