นาทีนี้ไม่พูดถึง Reels ก็ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะว่าอีกไม่นาน Reels จะเป็นแหล่งหารายได้แหล่งใหม่ให้ครีเอเตอร์ เนื่องจาก Meta (ซึ่งตอนนี้เป็นเจ้าของ IG แล้ว) ได้ลงทุนเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับ Reels Play โบนัส เพื่อจ่ายเงินให้กับครีเอเตอร์ที่ทำ Reels ทั้งบน Facebook และ Instagram ได้เจ๋งที่สุด เดือนละ 100 - 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปดูเคล็ดลับดี ๆ เพื่อฝึกทำวิดีโอบน Reels ให้คล่องมือ จะได้ไม่เสียโอกาสกันดีกว่าค่ะ  

Reels ใช้งานต่างกับ TikTok ไหม

นับว่าเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้วตั้งแต่ Reels ได้เปิดให้ใช้บริการกว่า 150 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากกระแสวิดีโอสั้นที่มาแรงเกินต้านทาน ทำให้ Meta ต้องออกฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอสั้นไม่เกิน 60 วินาทีเพื่อมาสู้กับ TikTok ตัวแม่แห่งวงการวิดีโอสั้น ดังนั้นการใช้งานระหว่าง Reels กับ TikTok จึงไม่ค่อยแตกต่างกันมาก เรียกว่าไม่ต่างเลยจะดีกว่า เพราะแค่ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ ใส่ Effect เลือกเพลงแล้วโพสต์ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

แต่สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง Reels กับ TikTok คือ เนื้อหาที่ต่างกัน มู้ดแอนด์โทน สไตล์และกลุ่มผู้ใช้งานที่ต่างกัน โดยผู้ใช้งาน TikTok ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม Gen Z ในขณะที่ Reels จะหนักไปทางกลุ่ม Millennials มากกว่า ดังนั้นถ้าเรามีผู้ติดตามเยอะใน IG หรือ Facebook อยู่แล้ว ยิ่งต้องใส่ใจทำ Reels เลยค่ะ เพราะว่าไมโครอินฟลูเอนเซอร์ส่วนใหญ่มักจะดึงผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วมได้สูงกว่ากลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่ดังมาก ๆ และทางแบรนด์ต่าง ๆ ก็มักอยากจะได้ไมโครอินฟลูเอนเซอร์มาทำงานร่วมกับพวกเขาในการโปรโมทสินค้าและบริการ 

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะทำธุรกิจอะไร เป็นอินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่ง เป็นแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ หรือเป็นครีเอเตอร์ ก็ควรที่จะสนใจทำ Reels แล้วค่อยแชร์ไป TikTok ก็ได้ เพราะว่า Reels สามารถที่จะช่วยให้เราเป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยการสร้าง Engagement ที่การันตีว่าสูงแน่นอน แถมยังสามารถเอาคลิปมาใช้ได้ซ้ำ เอาคลิป User-Generated Content มาใช้ได้อีกต่างหาก 

หารายได้จาก Reels ได้อย่างไร

Cr.instagram 

ตอนนี้ฟีเจอร์ Reels เปิดใช้ได้ทั้งใน Facebook และ Instagram แล้ว และอย่างที่ได้บอกไปตั้งแต่ต้นว่า อีกไม่นาน Reels เขาจะมีโบนัสให้คนที่ทำ Reels ได้เจ๋งและมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์สามารถสร้างรายได้ตามยอดดูคลิป Reels ได้ ซึ่งตอนนี้ Reels Play โบนัสเปิดใช้งานแค่ในอเมริกาก่อน แต่แน่นอนว่าอีกไม่นานต้องเปิดใช้บริการทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ทาง Meta ก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ แน่ชัดค่ะ ว่าเขาใช้เกณฑ์อะไรในการจ่ายโบนัสให้กับครีเอเตอร์ (Reels Play บน Facebook กับ Reels Play บน Instagram ใช้เกณฑ์ต่างกันด้วยค่ะ) ทั้งนี้ต้องรอดูกันต่อไปว่าโบนัสจาก Reels จะเปิดให้บริการในไทยเมื่อไหร่ แต่ในระหว่างนี้เราก็ยังสามารถหารายได้จาก Reels ได้ ดังนี้

• Paid partnership with รับค่าโฆษณาเพื่อสร้างคอนเทนต์วิดีโอให้กับแบรนด์ต่าง ๆ บน Reels เพื่อโปรโมท โดยเราจะต้องขึ้น Paid partnership with… กำกับบนวิดีโอด้วย

• Product Tags แท็กสินค้าด้วยลิงก์เพื่อให้คนดูคลิกเข้าไปช้อปสินค้าระหว่างที่ดู Reels ได้  

• Promoting merch ถ่ายวิดีโอสั้นโปรโมทสินค้าและบริการ แนะนำสินค้าด้วยวิดีโอสั้นบน Reels อารมณ์คอนเทนต์รีวิวสินค้าที่เราคุ้นชินนั่นเอง  

5 เคล็ดลับทำ Reels ให้ปังต่อยอดเป็น Influencer 

Cr.instagram 

สร้างคอนเทนต์ที่สนุก มีส่วนร่วมง่าย 

คอนเทนต์ประเภท Entertain และ Inspire หรือคอนเทนต์ที่สนุก สร้างแรงบันดาลใจ ดูแล้วอมยิ้ม ไม่ต้องคิดอะไรมากและเข้าใจง่าย เป็นคอนเทนต์ที่มักจะได้รับความนิยมบน Reels ที่สุด ลองสร้างเทรนด์ต้นฉบับ สอดแทรกอารมณ์ขัน ใช้การเปลี่ยนฉาก ใส่เสียงหรือข้อความเพื่อให้ความบันเทิงกับกลุ่มเป้าหมายและทำให้กลุ่มเป้าหมายดูซ้ำไปซ้ำมา เช่น คอนเทนต์แนว Tutorials และ How-to Videos 

Cr.instagram 

ถ่ายวิดีโอโดยนึกถึงจุดประสงค์หลัก 

คำนึงถึงวัตถุประสงค์สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยค่ะ เมื่อต้องออกแบบโฆษณาอะไรก็ตามในคลิป Reels หากเราต้องการทำ Brand Lift อย่าลืมเน้นถ่ายแบรนด์ในช่วงวินาทีแรก ๆ หากเราต้องการ Conversion ก็อย่าลืมนำเสนอการใช้งานสินค้าหรือบริการให้คนดูเข้าใจว่า สินค้าหรือบริการของเราใช้งานอย่างไร ดีอย่างไร ต้องรู้ว่าเราจะต้องถ่ายเน้นอะไรเป็นหลักก่อนถ่าย Reels เสมอ 

Cr.instagram 

ตัดต่อวิดีโอเน้นความสร้างสรรค์

ใส่เพลงให้คนเข้ามาดูมากขึ้น คลิป Reels ถูกกำหนดให้เปิดเสียงเป็นค่าเริ่มต้น ใช้ดนตรีและเสียงเพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย นอกจากการใช้เสียงเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายแล้ว ต้องเพิ่มหรือลด Speed ด้วย ใส่ AR Effects หรือ Touch Up ให้วิดีโอน่าสนใจ โดยวิดีโอบน Reels สามารถทำให้ยาวได้ 30 วินาทีกำลังดี และสุดท้ายอย่างลืมจัด Align ให้วิดีโอของเรามีสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่เบี้ยว ไม่เอียงให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ

Cr.instagram 

แท็กสินค้า ใส่ Call To Action แบบกดปุ่ม

ไม่ควรใส่ Call To Action (CTA) แบบให้ปัดขึ้นหรือ Swipe Up เหมือนวิดีโอบน IG Story ค่ะ เพราะถึงแม้ว่า Reels และ IG Story จะถูกออกแบบมาในแนวตั้งที่อัตราส่วน 9:16 เหมือนกันก็ตาม แต่การใช้งานของ Reels จะถูกออกแบบมาเพื่อให้คนดูกดปุ่มมากกว่าปัดขึ้น ดังนั้นเมื่อเราอยากแท็กสินค้าลงใน Reels ให้ทำปุ่มกดดีกว่าให้ปัดขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะเพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดขาย ยอดวิว ยอดคลิกได้ดีกว่า  

Cr.instagram 

ใส่แฮชแท็กสัก 2-3 แฮชแท็ก 

แฮชแท็กยอดนิยมบน Reels ได้แก่ #slowmo #funnyvideos #videooftheday #viralreels #love #fashion #memes #travel #nature #goodvibes #instatravel #instalike #reels #reelsinstagram #reelsvideo #holareels #instagramreels #instareels แนะนำโดย Instagram โดยตรงนะคะ ให้เราเลือกแฮชแท็กที่เหมาะกับวิดีโอ Reels ของเราที่สุดมา 3 แฮชแท็ก อย่าใส่มากเกินไปนะคะ เดี๋ยวคนดูเขาจะรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำวิดีโอมาเพื่อเขา แต่ทำมาเพื่อทุกคนเกินไป ความรู้สึกพิเศษและเป็นส่วนหนึ่งคือคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Reels อย่าลืมข้อนี้เด็ดขาดค่ะ

ที่มาข้อมูล

• https://www.facebookblueprint.com/student/activity/220964-create-entertaining-reels-to-reach-more-people#/page/6099b7aeac3ea518524893b6
• https://creators.instagram.com/earn-money/instagram-bonuses
• https://influencermarketinghub.com/instagram-reels-guide/
• https://business.instagram.com/instagram-reels?locale=th_TH
• https://indd.adobe.com/view/d68053a3-939c-4ea8-ba86-42f40e43bd05