คุณคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “คุณอาจไม่มีวันได้รับโอกาสครั้งที่สองในการสร้างความประทับใจแรกที่ดี” ขอบอกว่ามันเป็นความจริง เพราะถ้าคุณทำให้คนที่เจอกันครั้งแรกรู้สึกดีหรือประทับใจในตัวคุณได้ ความรู้สึกดี ๆ นั้นมันจะไม่หายไปจากความคิดของเขา โดยเฉพาะในการทำงาน เวลาต้องนำเสนองานหรือขายงาน หากคุณสามารถสร้างความประทับใจแรกพบที่ดีได้ มันจะเป็นประตูที่ช่วยนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น การสร้างเครือข่าย และความสำเร็จในการทำธุรกิจ
สมองของมนุษย์นั้นเปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เรามีฮาร์ดแวร์ (จิตไร้สำนึก) และซอฟต์แวร์ (จิตสำนึก) ที่ทำงานเพื่อช่วยให้คนเราเรียนรู้และมีชีวิตอยู่ได้ จิตสำนึกของเราสามารถจัดการกับข้อมูลได้ประมาณ 40 บิตต่อวินาที ส่วนจิตไร้สำนึกจะสามารถจัดการกับข้อมูลหรือสิ่งที่เราพบเจอได้ 11 ล้านบิตต่อวินาที !
จิตไร้สำนึกของคนเราสามารถจัดการและประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วมาก เช่น สัตว์ตัวนั้นจะทำร้ายเราหรือไม่ เสียงที่ได้ยินนั้นฟังดูอันตรายไหม หรือความประทับใจที่เรามีต่อคนที่เจอกันครั้งแรก แล้วมันทำงานกันอย่างไร ?
เมื่อเราเจอคนที่เพิ่งเคยเจอครั้งแรก จิตไร้สำนึกจะทำงานผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘เซลล์ประสาทกระจก’ เซลล์ประสาทเหล่านี้จะยิงและจับคู่อารมณ์ของอีกฝ่าย ถ้าคนที่เราเจอรู้สึกประหม่า เราก็อาจรู้สึกประหม่าตามไปด้วยทันที ถ้าเขาโกรธ เราก็อาจรู้สึกโกรธไปด้วย เป็นต้น ดังนั้นคุณลองนึกถึงเวลาที่จะต้องพรีเซนต์งานต่อหน้าคนอื่น คุณเดินไปกลางห้องด้วยความกลัว ท่าทางไม่มั่นใจ ผู้ชมก็จะรับรู้และรู้สึกแย่เกี่ยวกับคุณในทันที และนี่คือเหตุผลที่คุณควรรู้วิธีสร้างความประทับใจแรกพบ เพราะมันจะช่วยให้การพูดหรือนำเสนอนนั้นสำเร็จไปด้วยดี
เพราะรูปลักษณ์ของคุณเป็นสิ่งแรกที่ผู้ชมจะสังเกตเห็นเกี่ยวกับตัวคุณ ดังนั้นการแต่งตัวจึงมีความสำคัญ ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจำเป็นต้องสวมสูท แต่ถ้าเป็นไปได้การสวมสูทจะช่วยสร้างความมั่นใจและอำนาจให้คุณได้ หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะใส่ชุดอะไรดี ให้เริ่มคิดก่อนว่าผู้ชมคือใคร พวกเขาอายุเท่าไหร่ คุณจะได้แต่งตัวให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ชม รวมไปถึงการคำนึงถึงหัวข้อที่จะพูด สีและสไตล์ของสไลด์นำเสนอด้วย การแต่งกายที่ดูสุภาพและสะอาดจะช่วยให้ผู้ชมไม่ตัดสินคุณในทางลบตั้งแต่เริ่ม
หากไม่รู้จะใส่เสื้อผ้าสีอะไร เราขอแนะนำให้อ่านบทความ วิธีเลือกสีเสื้อผ้าในการนำเสนองาน ตามหลักจิตวิทยาสี
เมื่อคุณยิ้มทักทายผู้ชม พวกเขาก็มักจะยิ้มตอบ เพราะรีแอคชั่นของคนเราเวลาเห็นคนอื่นยิ้มให้ ส่วนใหญ่ก็มักจะยิ้มตอบและมีส่วนร่วมกับรอยยิ้มนั้น การยิ้มจะช่วยให้ทั้งคุณและผู้ชมรู้สึกสบายใจและเปิดใจให้ต่อกัน แต่คุณควรตรวจสอบให้ดีว่ารอยยิ้มนั้นเป็นของแท้ ไม่ใช่รอยยิ้มแบบฝืน ๆ หรือแกล้งยิ้ม
ความประหม่าอาจทำให้คุณไม่ค่อยอยากสบตากับใคร แต่การสบตาจะช่วยสร้างความประทับใจแรกพบได้ คุณควรสบตากับผู้ชมอย่างสม่ำเสมอ เพราะมันจะช่วยให้พวกเขาตั้งใจฟัง เปิดใจต่อการนำเสนอของคุณ และมันยังทำให้คุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย นอกจากนี้การสบตายังช่วยให้คุณอ่านใบหน้าหรืออารมณ์ของผู้ชมได้ว่าพวกเขากำลังรู้สึกอย่างไรกับคุณ
ท่าทางที่แสดงออกของคุณถือเป็นภาษากาย และมันส่งผลต่อการรับรู้ของผู้ชมที่มีต่อคุณได้ การมีภาษากายที่ดีจะช่วยทำให้ผู้ชมรู้สึกดีและเปิดใจรับฟังคุณมากขึ้น คำแนะนำจากนักพูดมืออาชีพคือ อย่าเอามือล้วงกระเป๋า ให้ผู้ชมเห็นมือของคุณอยู่เสมอเพราะมันจะดูน่าเชื่อถือมากกว่า และถ้ามีข้อมูลส่วนไหนที่ต้องการให้ผู้ชมสนใจเป็นพิเศษให้คุณใช้ท่าทางมือ หรือเดินย้ายไปอีกมุมอย่างเป็นธรรมชาติ
ควรระวังภาษากายของคุณให้ดี เช่น การทำหน้าบึ้งก่อนนำเสนอ การกอดอก การกัดริมฝีปาก ภาษากายพวกนี้ควรหลีกเลี่ยงเพราะมันเป็นภาษากายที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าไม่ควรไว้ใจคุณ ซึ่งมันจะส่งผลให้พวกเขามีความรู้สึกนั้นตลอดเวลาที่คุณพูดพรีเซนต์ สามารถอ่านบทความเรื่องภาษากายที่ดีเพิ่มเติมได้ที่ 9 ภาษากายที่จะช่วยให้การพรีเซนต์งานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น
การฝึกซ้อมก่อนนำเสนอจริงจะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้น เมื่อคุณดูมั่นใจ ผู้ชมก็จะรู้สึกได้ถึงมันและคุณก็จะดูน่าเชื่อถือในสายตาพวกเขา เมื่อคุณพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ มีภาษากายที่ดี และมีการเตรียมที่ดี โดยเฉพาะการเตรียมสิ่งที่จะพูดไว้ล่วงหน้า เช่น คุณจะเริ่มด้วยการแนะนำตัวเองแบบปัง ๆ หรือเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ ให้ผู้ชมรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับคุณก่อน การทำแบบนี้จะช่วยสร้างความประทับใจแรกพบได้ดีทีเดียว เพราะผู้ชมจะรู้สึกสนใจในตัวคุณและอยากจะฟังต่อ
เรียนรู้เทคนิคการเล่าเรื่องให้น่าสนใจ วิธีพัฒนาทักษะการนำเสนอให้เก่งขึ้น คลิกที่นี่
สรุปแล้วในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ผู้ชมมักจะตัดสินใจว่าพวกเขาต้องการฟังคุณหรือไม่ โดยพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกของคุณ และสิ่งที่คุณกำลังทำ เช่น คุณแต่งตัวเป็นอย่างไร คุณเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ดูมั่นใจหรือไม่ คุณเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติและยิ้มบ่อยแค่ไหน เป็นต้น หากคุณเข้าใจเรื่องพวกนี้ก็จะเข้าใจวิธีสร้าง First Impression ที่ดีได้
ที่มาข้อมูล