ในภาษาจีนนั้น มีเครื่องหมายวรรคตอน เช่นเดียวกับภาษาอื่น ๆ สำหรับน้อง ๆ ป.6 นี้ เรามาลองดูกันว่า "เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาจีน" ที่นำมาฝากใช้อย่างไรกันบ้าง
1.句号 jùhào(。)หรือเครื่องหมายมหัพภาค ใช้ท้ายประโยคเมื่อจบประโยคหนึ่งๆ เช่น
我们什么也看不见。
Wǒmen shénme yě kàn bùjiàn.
พวกเรามองอะไรก็ไม่เห็นเลย
电视剧已经结束了,真可惜。
Diànshìjù yǐjīng jiéshùle, zhēn kěxí.
ละครจบแล้ว น่าเสียดายจริงๆ
2.逗号 dòuhào(,)
กรณีที่ 1 เครื่องหมายจุลภาค ใช้เพื่อแบ่งวรรคระหว่างประโยคที่ยังพูดไม่จบแต่ต้องการหยุดพัก เช่น
打了好几次,校长都不接电话。
Dǎle hǎojǐ cì, xiàozhǎng dōu bù jiē diànhuà.
โทรไปอีกหลายครั้ง ครูใหญ่ก็ไม่รับสาย
东方毅老师笑了,校长也笑了。
Dōngfāng yì lǎoshī xiàole, xiàozhǎng yě xiàole.
คุณครูตงฟางอี้หัวเราะ ครูใหญ่ก็หัวเราะ
กรณีที่ 2 เครื่องหมายจุลภาค ใช้ในกรณีเรียกใครสักคน เช่น
小天和小博,你们俩把椅子搬到桌子上。
Xiǎo tiān hé xiǎo bó, nǐmen liǎ bǎ yǐzi bān dào zhuōzi shàng.
เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวป๋อ พวกเธอทั้งสองช่วยกันยกเก้าอี้ขึ้นบนโต๊ะ
老师,我已经做好了。
Lǎoshī, wǒ yǐjīng zuò hǎole.
คุณครูครับ ผมทำเสร็จแล้วครับ
กรณีที่ 3 เครื่องหมายจุลภาค ใช้ในกรณีที่ต้องการเน้นความหมายระหว่างคำหรือ วลีที่เรียงต่อกัน เช่น
我们扫啊扫,擦啊擦,拖啊拖,一下子教室就干净了。
Wǒmen sǎo a sǎo, cā a cā, tuō a tuō, yīxià zi jiàoshì jiù gānjìngle.
พวกเรากวาดๆ เช็ดๆ ถูๆ ไม่นานห้องเรียนก็สะอาดเรียบร้อย
3.分号 fēnhào (;)หรือเครื่องหมายอัฒภาคเป็นเครื่องหมายคั่นอีกชนิดหนึ่งใช้คั่นระหว่างอนุประโยคที่สั้น เพื่อลำดับประโยคให้ชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้น เช่น
上课的时候,他很认真;下课后,他却很调皮。
Shàngkè de shíhòu, tā hěn rènzhēn; xiàkè hòu, tā què hěn tiáopí.
ในเวลาเรียนเขาตั้งใจเรียนมาก พอเลิกเรียนเขากลับซนเหลือเกิน
4.冒号 màohào(:)หรือเครื่องหมายทวิภาค (มหัพภาคคู่) ใช้เพื่อแสดงว่าต่อไปนี้เป็นใจความสำคัญ หรือ เป็นการยกคำพูดขึ้นมา เช่น
老师的话大家都牢记:“团结就是力量”
Lǎoshī dehuà dàjiā dōu láojì:“Tuánjié jiùshì lìliàng”
คำพูดของคุณครู ทุกคนจำขึ้นใจว่าสามัคคีก็คือพลัง
平平跟妈妈说:“谢谢你”
Píngpíng gēn māmā shuō:“Xièxiè nǐ”
ผิงผิงพูดกับคุณแม่ว่า ขอบคุณค่ะ
5.顿号 dùnhào(、)หรือเครื่องหมายจุลภาคกึ่งส่วน (หยดน้ำค้าง) ใช้คั่นคำหรือวลีที่เรียงต่อเนื่องกันมีเพียงไม่กี่คำและไม่ต้องการเน้นมาก เป็นการเว้นจังหวะที่แคบกว่าเครื่องหมายจุลภาค(,)เช่น
保持清洁、书本整齐、饮食卫生。
Bǎochí qīngjié, shūběn zhěngqí, yǐnshí wèishēng.
รักษาความสะอาด หนังสือเป็นระเบียบ อาหารมีอนามัย
小天、小邦、小博一起去洗手间。
Xiǎo tiān, xiǎo bāng, xiǎo bó yīqǐ qù xǐshǒujiān.
เสี่ยวเทียน เสี่ยวปัง เสี่ยวป๋อไปห้องน้ำด้วยกัน
6.问号 wènhào(?)หรือเครื่องหมายปรัศนี (คำถาม) เป็นเครื่องหมายคำถาม ใส่ท้ายประโยคที่เป็น คำถาม แต่บางทีก็ใส่ท้ายวลีหรือคำที่ต้องการให้เห็นว่าเป็นข้อสงสัยหรือคำถาม เช่น
大家懂了吗?
Dàjiā dǒngle ma?
ทุกคนเข้าใจแล้วใช่ไหม
你们想吃什么味儿的冰淇淋?
Nǐmen xiǎng chī shénme wèi er de bīngqílín?
พวกเธออยากกินไอศกรีมรสอะไร
7.感叹号 gǎntànhào(!)หรือเครื่องหมายอัศเจรีย์ (อุทาน) เครื่องหมายแสดงความรู้สึกที่รุนแรง เช่น ตื่นเต้น หนักแน่น โกรธ เสียใจ แปลกใจ ขอร้อง เช่น
我们快上飞机吧!
Wǒmen kuài shàng fēijī ba!
พวกเรารีบขึ้นเครื่องบินกันเถอะ
你这样做很不好!
Nǐ zhèyàng zuò hěn bù hǎo!
คุณทำแบบนี้ไม่ดีเอาเสียเลย
8.省略号 shěnglüèhào(……)หรือเครื่องหมายเส้นไข่ปลา ทำหน้าที่คล้ายเครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) และไปยาลใหญ่(ฯลฯ)ในภาษาไทย ใส่หลังข้อความเพื่อแสดงว่ายังมีสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวในที่นี้อีก เช่น
张伯伯家的孔雀鱼有蓝色、红色、黑色……,很多颜色真漂亮。
Zhāng bóbo jiā de kǒngquè yú yǒu lán sè, hóngsè, hēisè……, hěnduō yánsè zhēn piàoliang.
ปลาหางนกยูงที่บ้านลุงจางมีสีน้ำเงิน สีแดง สีดำ ฯลฯ หลากหลายสีสวยงามจริงๆ
这是小南、小博、芬芬……,我们都是好朋友。
Zhè shì xiǎonán, xiǎo bó, fēn fēn……, wǒmen dōu shì hǎo péngyǒu.
นี่คือเสี่ยวหนาน เสี่ยวป๋อ เฟินเฟิน ฯลฯ พวกเราเป็นเพื่อนรักกัน
9.书名号 shūmínghào(《》)หรือเครื่องหมายระบุชื่อหนังสือ ใช้เพื่อบอกให้รู้ว่าข้อความนั้น เป็นชื่อหนังสือหรือชื่อบท เช่น
这本书的书名是《爱迪生的故事》。
Zhè běn shū de shū míng shì “àidíshēng de gùshì”.
หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่าเรื่องเล่าของเอดิสัน
彼得最喜欢读《超人》。
Bǐdé zuì xǐhuān dú “chāorén”.
ปีเตอร์ชอบอ่านเรื่องซุปเปอร์แมน
10.间隔号 jiàngéhào(·)หรือเครื่องหมายคั่น ใช้คั่นแบ่งเดือนกับวัน ชื่อหนังสือกับชื่อบท หรือชื่อกับนามสกุลของคนชาติอื่นที่ไม่ใช่คนจีน เช่น
托马斯·爱华·爱迪生
Tuōmǎsī·ài huá·àidíshēng
โทมัส อัลวา เอดิสัน
查尔斯·达尔文
Chá'ěrsī·dá'ěrwén
ชาร์ลส์ ดาร์วิน
11.括号 kuòhào( )
กรณีที่ 1 ใช้กับข้อความที่เป็นคำอธิบายเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากเนื้อหาหลัก ใช้ในกรณีต่อไปนี้
ใช้อธิบายเนื้อความเพิ่มเติม เช่น
Zhāngxiǎoyàn (zhāng bóbo de nǚ'ér) huì zuò bīngqílín.
张小燕(张伯伯的女儿)会做冰淇淋。
จางเสี่ยวเยี่ยน (ลูกสาวของคุณลุงจาง) ทำไอศกรีมเป็น
Píngpíng zuò de cài hěn hào chī (yóuqí shì liángbàn mùguā sī).
平平做的菜很好吃(尤其是凉拌木瓜丝)。
อาหารที่ผิงผิงทำอร่อยมาก (โดยเฉพาะส้มตำ)
กรณีที่ 2 ใช้กับข้อความที่เป็นคำอธิบายความหมายของคำศัพท์ ใช้ในกรณีต่อไปนี้
ใช้อธิบายความหมายของคำศัพท์ เช่น
科利哥哥是篮球迷(很喜欢篮球的人)。
Kē lì gēgē shì lánqiú mí (hěn xǐhuān lánqiú de rén).
พี่คลิกเป็นแฟนกีฬาบาสเกตบอล (คนที่ชอบกีฬาบาสเกตบอลมากๆ)
กรณีที่ 3 ใช้บอกที่มาของข้อความ ใช้ในกรณีต่อไปนี้
ใช้บอกที่มาของข้อความ เช่น
“三月三日气象新,长安水边多丽人”。(杜甫)
“Sān yuè sān rì qìxiàng xīn, cháng'ān shuǐ biān duō lìrén”.(Dùfǔ)
“สามมีนาช่างเป็นวันดีฟ้าใหม่ ริมน้ำนครฉางอานมากด้วยสาวงาม” (โดยตู้ฝู่)
12.引号 yǐnhào(“”)หรือเครื่องหมายอัญประกาศ
กรณีที่ 1 ใช้กับข้อความที่อ้างอิงถึง เช่น
讲解员解释;“蜘蛛是有益的昆虫,它们能织网捕捉蚊子。”
Jiǎngjiě yuán jiěshì;“zhīzhū shì yǒuyì de kūnchóng, tāmen néng zhī wǎng bǔzhuō wénzi.”
ผู้บรรยายอธิบายว่า “แมงมุมเป็นสัตว์ที่ให้คุณประโยชน์ พวกมันสามารถชักใยจับยุงได้”
老师跟同学们说;“做什么都要小心,注意安全。”
Lǎoshī gēn tóngxuémen shuō;“zuò shénme dōu yào xiǎoxīn, zhùyì ānquán.”
คุณครูพูดกับนักเรียนว่า “ทำอะไรต้องระวัง รู้จักรักษาความปลอดภัย”
กรณีที่ 2 ใช้กับข้อความที่เป็นคำพูด เช่น
“我可以喝吗?”平平问。
“Wǒ kěyǐ hē ma?” Píngpíng wèn.
ฉันดื่มได้ไหม ผิงผิงเอ่ยถาม
“过期的牛奶不能喝。”妈妈回答。
“Guòqí de niúnǎi bùnéng hē.” Māmā huídá.
นมหมดอายุดื่มไม่ได้นะ คุณแม่ตอบ
13.破折号 pòzhéhào(──)หรือเครื่องหมายเส้นคั่นยาว ใช้เพื่อบอกว่าข้อความต่อไปนี้เป็นการอธิบายเพิ่มเติมหรือการเสริมความหมาย เครื่องหมายนี้จะยาวเท่ากับอักษรจีน 2 ตัวและขีดอยู่ระดับกึ่งกลางของ ตัวอักษร
กรณีที่ 1 แสดงให้รู้ว่าข้อความต่อไปนี้เป็นคำอธิบายเชิงหมายเหตุหรือให้ความหมายเพิ่มเติม เช่น
这就是 “发明之王”,电灯的发明者── 托马斯·爱华·爱迪生童年 的故事。
Zhè jiùshì “fāmíng zhī wáng”, diàndēng de fǎ míng zhě ── tuōmǎsī·ài huá·àidíshēng tóngnián de gùshì.
นี่ก็คือเรื่องราววัยเด็กของ “ราชาแห่งการประดิษฐ์” ผู้ประดิษฐ์ไฟฟ้าส่องสว่าง โทมัส อัลวา เอดิสัน
กรณีที่ 2 ใช้เพื่อเน้นเสียงยาว เช่น
“呼──呼──”这风吼起来,到处都响。
“Hū ──hū ──” zhè fēng hǒu qǐlái, dàochù dōu xiǎng.
“ฟู่...ฟู่...” เสียงลมพัดอย่างแรงได้ยินไปทั่วทุกที่
กรณีที่ 3 ใช้เพื่อแสดงให้รู้ช่วงเวลาหรือระยะทางระหว่างสถานที่ เช่น
北京──曼谷
Běijīng ──màngǔ
ปักกิ่ง – กรุงเทพฯ
春秋时代(公元前770年──公元前476年)
Chūnqiū shídài (gōngyuán qián 770 nián ──gōngyuán qián 476 nián)
ยุคชุนชิว (ก่อนค.ศ. 770 – 476 ปี)