8 เทคนิคเพิ่มแรงจูงใจ เติมเอนเนอร์จี้ให้ตัวเองแบบเต็มร้อย
2489 views | 10/04/2023
Copy link to clipboard
Koii Nopnok
Content Creator

แรงจูงใจ (Motivation) ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้คุณไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ ซึ่งมันสามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิต ตั้งแต่การอยากจะทำงานให้มีประสิทธิภาพ การอยากจะออกกำลังกายเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดี หรือการที่อยากจะเปลี่ยนแปลงนิสัยของตัวเอง แต่หลายคนก็มักจะเจอปัญหาสุดคลาสสิกคือหมดแรงใจที่จะทำระหว่างทาง มาดูเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มและรักษาแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ มาเติมไฟให้ตัวเองแบบเต็มร้อยกัน !



เริ่มต้นทีละน้อย

หนึ่งในเคล็ดลับสำคัญที่สุดในการสร้างแรงจูงใจ คืออย่าเริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ใหญ่โต แต่ควรเริ่มต้นด้วยเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เราสามารถทำให้สำเร็จได้ง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ ขยับไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่โตมากขึ้น การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณรับมือกับมันได้ง่ายขึ้น การเริ่มจากสิ่งที่ทำให้สำเร็จได้ง่ายจะทำให้คุณทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันจะช่วยสร้างแรงผลักดันให้คุณรู้สึกดีและอยากทำมันต่อไป 


ทำทีละเป้าหมาย

การเริ่มต้นทำอะไรอย่างจริงจังด้วยการมีเป้าหมายนับไม่ถ้วน แม้จะพยายามทำหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกัน มันก็จะสูบพลังและบั่นทอนแรงจูงใจของคุณมากทีเดียว ซึ่งมันเป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ๆ เพราะฉะนั้นคุณควรตั้งเป้าหมายเพียงอย่างเดียวก่อนแล้วจอจ่อกับมันให้เต็มที่ 


กำจัดความคิดเชิงลบ

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า ‘ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว’ คำนี้คือเรื่องจริง เพราะถ้าในใจเราเอาแต่คิดว่าทำไม่ได้ ทำไม่สำเร็จ หรือคิดลบอย่างเดียว เราก็จะมีความรู้สึกและเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ ซึ่งมันจะส่งผลให้หมดแรงจูงใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้ เพราะฉะนั้นคุณจึงควรรู้เท่าทันความคิดตัวเอง เมื่อรู้ตัวว่ากำลังคิดลบก็ให้คิดบวกแทน และพยายามกำจัดความคิดที่ว่า ‘มันยากไป’ แล้วแทนที่ด้วย ‘เราทำได้ ค่อย ๆ ทำเราทำได้แน่นอน’ วิธีนี้ถือเป็นเทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง ๆ 


นึกถึงประโยชน์ที่จะได้รับ

หลายคนมักจะชอบคิดว่าการจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างที่ตัวเองไม่เคยทำนั้นยากแค่ไหน แทนที่เราจะเอาแต่คิดถึงความยากของมัน ให้ลองปรับมาคิดว่าเราจะได้อะไรจากการทำสิ่งนั้นก็จะช่วยเพิ่มแรงฮึด เพิ่มเอนเนอร์จี้ที่จะอยากทำได้มากขึ้น เช่น ถ้าเราได้ยืดเหยียด โยคะยืดเส้นทุกวันหลังเลิกงานก็จะช่วยให้เราสดชื่น หายปวดเมื่อยได้ เป็นต้น การคิดถึงผลดีหรือประโยชน์จากการทำสิ่งนั้นจะช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้คุณอยากทำมันมากขึ้น 



ค้นหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์

การมีใครสักคนที่มีเป้าหมายคล้ายกับเรา เช่น อยากออมเงิน หรืออยากมีสุขภาพที่ดีเหมือนกัน จะช่วยกระตุ้นให้คุณทำมันต่อไปได้ และยังได้คนที่จะคอยช่วยให้กำลังใจ คอยช่วยเหลือกันได้ดีด้วย คุณอาจหากลุ่มคนที่มีความสนใจเหมือนกันจากในกลุ่มเฟซบุ๊ก หรือในโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณได้


อย่าหยุดทำหรือข้ามไปสองวันติด

บางครั้งเราก็ต้องหยุดพักบ้างเพื่อไม่ให้ตัวเองหมดไฟ แต่คุณควรจะกำหนดเวลาพักไว้อย่างชัดเจน และอย่าหยุดทำมัน 2 วันติดเชียว เพราะมันมีแนวโน้มว่าอาจจะทำให้คุณล้มเลิกที่จะทำต่อได้สูงมาก 


บันทึกความก้าวหน้าและให้รางวัลตัวเอง

คุณอาจบันทึกง่าย ๆ อย่างการทำเครื่องหมายกากบาทบนปฏิทิน หรือบันทึกแบบง่าย ๆ ลงในโทรศัพท์มือถือ การจดบันทึกความก้าวหน้าจะช่วยคุณได้ดีมากเมื่อเวลารู้สึกท้อให้เปิดอ่านมัน คุณจะได้เห็นว่าตัวเองมาไกลแค่ไหนแล้ว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้คุณมีแรงฮึบและทำต่อไปเรื่อย ๆ และอย่าลืมฉลองให้กับความสำเร็จที่ทำได้ด้วย แม้จะเล็กน้อยก็ควรให้รางวัลตัวเอง เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกตื่นแต้นและมีแรงใจที่จะทำต่อไป


หาครูฝึกหรือหาคอร์สเรียน

วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นให้คุณลงมือทำแบบ 100% เพราะตามหลักจิตวิทยาแล้วเมื่อคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับอะไรสักอย่าง คุณจะมีแรงจูงใจมากขึ้นที่จะเรียนรู้และทำมันให้สำเร็จ ก็ถือเป็นเทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง ๆ และสามารถประยุกต์ใช้ได้กับเป้าหมายที่หลากหลาย


หากอยากเรียนรู้ทักษะในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อจะได้มีพลัง รู้เทคนิคสร้างแรงจูงใจที่ดีในการทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างแฮปปี้ ขอแนะนำคอร์สเรียนออนไลน์ “Self-Inspiration at Work” คอร์สที่ออกแบบมาตามหลักจิตวิทยาและศาสตร์ของการทำงานของสมอง เพื่อช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงระบบความคิดและจิตใจของของผู้เรียนได้อย่างเป็นระบบ สอนโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญตัวจริงด้านการพัฒนายกระดับความคิดและจิตใจที่มีประสบการณ์กว่า 17 ปี

สนใจสมัครเรียนคอร์ส “Self-Inspiration at Work” >> คลิกที่นี่




ที่มาข้อมูล

  • -LeoBabauta.(2014).ทำน้อยให้ได้มาก.แปลจากThePowerofLess.แปลโดยวิกันดาพินทุวชิราภรณ์.กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์วีเลิร์น
  • -https://www.wikihow.com/Motivate-Yourself